เป้าหมายหลักของไทยในปี 2569 ไม่ใช่การแข่งขันด้านปริมาณ แต่คือการมุ่งไปที่ “คุณภาพและมูลค่า”
ไทยไม่สามารถแข่งขันด้าน “ราคา” หรือ “ปริมาณ” กับเวียดนามหรือบราซิลได้เลย เนื่องจากต้นทุนการผลิต (ค่าแรง, ที่ดิน) สูงกว่ามาก

ทางรอดกาแฟไทย เป็นทางเลือกที่รัฐต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจัง
“กาแฟพิเศษ” คือทางรอด นี่คือทิศทางที่ชัดเจนที่สุดของไทย ตลาดกาแฟพิเศษในไทยเติบโตสูงถึง 25% ต่อปี (เทียบกับตลาดกาแฟพรีเมียมที่โต 8.5%)
ยุทธศาสตร์ปี 2569 คือการผลักดัน “กาแฟพิเศษไทย” (Thai Specialty Coffee) ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก โดยมีเป้าหมายผลักดันไทยสู่การเป็น “จุดหมายปลายทางกาแฟโลก” เน้นคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ นำงานวิจัยสู่เกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม
กรมส่งเสริมการเกษตร ปีนี้พูดเรื่อง “กาแฟพิเศษ” ได้ชัดเจนมาก มีกิจกรรมที่เวลาไปงานแล้วชื่นใจ ตั้งแต่สมัย “อาจารย์แหม่ม” เป็นรมว.เกษตรฯ และ “รมช.อัครา” พาไปดูการปลูกกาแฟที่แม่ริม การส่งเสริมเกษตรกร (โดยเฉพาะภาคเหนือที่ปลูกอาราบิก้า) ให้พัฒนากระบวนการแปรรูป ที่หลากหลายและมีคุณภาพสูง เพื่อสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถขายเมล็ดกาแฟได้ในราคาสูง
กรมวิชาการเกษตร วิจัยและพัฒนาสายพันธุ์กาแฟไทยที่ทนต่อสภาพอากาศและให้รสชาติที่ดี
ที่คาดหวังสุดๆคือ เราจะสร้างแบรนด์ “กาแฟไทย” ให้แข็งแกร่ง เน้นเรื่องราวและอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น (GI – สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) มากขึ้น




