“พลิกมุมคิดเพื่อยกระดับผลผลิตข้าวอีสาน” โดย คุณสินสมุทร ศรีแสนปาง ผู้ก่อตั้งโครงการศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด ได้ชี้ให้เห็นว่า “กำแพงทางใจ” คืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ชาวนาไม่กล้าก้าวออกจากวิธีเดิม ๆ ทั้งที่การเปลี่ยนเพียงมุมคิด ก็ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นได้ นำมาสู่การจัดตั้งโครงการศรีแสงดาวหมู่บ้านนาหยอด ซึ่งสิ่งที่ต้องสื่อสารให้ชัดคือ การทำให้ชาวนากล้าปรับตัวโดยเริ่มจากเคล็ดลับง่าย ๆ ที่ทำได้จริงเพื่อพิสูจน์ว่าใช้เมล็ดพันธุ์น้อยก็ให้ผลผลิตสูงได้ ถ้าทำตามวิธีการที่ถูกต้อง
โดยใช้เคล็ดลับ 3 เรื่อง คือ
1) ใส่ปุ๋ยให้ถูก (ถูกสูตร ถูกปริมาณ ถูกจังหวะ)
2) ปรุงดินเพื่อช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมีในระยะยาว ผ่านการไถกลบตอซัง การห่มดินเพื่อรักษาอินทรียวัตถุ และการปลูกพืชหลังนา
(3) ทำนาหยอด มีขั้นตอนสำคัญ ได้แก่ ไถล่อหญ้าเพื่อกำจัดวัชพืช ทำแปลงให้สะอาด และอนุบาลต้นข้าวให้อยู่รอดในเดือนแรก โดยการทำนาหยอดใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 1.6 กิโลกรัม/ไร่ ลดต้นทุนเมล็ดพันธุ์ลงถึง 22 เท่า แต่ให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 600 กิโลกรัม/ไร่
อีกสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสำเร็จ คือ ต้องมีทัศนคติที่ดี เชื่อว่า “เราทำได้” มีความรู้ที่ถูกต้อง และกล้าลงมือทำ
ประเด็นที่น่าสนใจ การผลิตข้าวเกรดพรีเมียม ข้าวคุณภาพดีจากทุ่งกุลาร้องไห้
ที่มา : งานสัมมนาประจำปี 2568 หัวข้อ “เกษตรวิถีใหม่ เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น” โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ธปท. สภอ.)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่https://www.bot.or.th/…/northeastern-symposium-2025-2.html





