เมื่อวาน..หลังจากผมนั่งฟัง ดร.ชาลินี คงสวัสดิ์ จาก Biotech อธิบายเรื่อง GEd แบบที่คนธรรมดาอย่างผมยัง “อ๋อ” ได้ง่าย ๆ
ผมก็นึกว่า…แค่ความเข้าใจทางวิชาการก็คงพอแล้วมั้ง
แต่พอขึ้นช่วงต่อไป
ดร.ปิยรัตน์ ธรรมกิจวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร ก็เดินขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มที่ดูใจเย็นมาก
แล้วเธอพูดประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมต้องหยิบสมุดขึ้นมาจดทันที
เธอบอกว่า “กรมวิชาการเกษตร“ เดินหน้า GEd ด้วย 3 ด้าน:
วิจัยพัฒนาให้ดี
ดูแลกำกับให้โปร่งใส
สื่อสารสร้างการรับรู้ให้เข้าใจ
แค่ 3 คำ ”วิจัย ดูแล สื่อสาร”
มันเป็นประโยคง่าย ๆ
แต่พอฟังลึกลงไป…ผมรู้เลยว่ามันคือ “หัวใจของการทำงานรัฐ” แบบที่ควรจะเป็น
1) วิจัยพัฒนา — เราอยากได้พืชที่ทนแล้ง ทนร้อน ทนโรคจริง ๆ
ดร.ปิยรัตน์เล่าว่า ทีมของเธอกำลังเร่งทำงานวิจัยอย่างหนัก เพื่อปรับปรุงแก้ไขพันธุกรรม จากนั้นจึงนำไปปลูกทดสอบพัฒนาให้เป็นพันธุ์ที่เกษตรกรปลูกได้จริงในโลกที่อากาศแปรปรวนทั้งร้อน แล้ง และน้ำท่วมขึ้นเรื่อย ๆ
มันเหมือนพ่อครัวที่คิดปรับปรุงสูตรอาหารใหม่ กว่าจะได้รสชาติที่ “ใช่” สำหรับคนทั้งประเทศ เธอไม่เคยพูดว่าเทคโนโลยีนี้สมบูรณ์แบบ
แต่เธอบอกว่าเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหนึ่ง “เราต้องวิจัยและทดสอบให้มากพอจนมั่นใจว่ามันดีและปลอดภัยจริง ๆ ก่อนการรับรองเพื่อส่งถึงมือเกษตรกร”
2) ดูแล — มีกติกาชัดเจน โปร่งใส ตรวจสอบได้ตามหลักการสากล
ผมมองดูสีหน้าเธอตอนพูดถึง “ประกาศปี 2567” มันไม่ใช่สีหน้าของคนที่มาอธิบายกฎ แต่เป็นสีหน้าของคนที่ “อยากให้ทุกคนมั่นใจว่ากฎนี้มีที่มาและเหตุผลในบริบทของประเทศ”
เธออธิบายว่า—
> “ทุกอย่างต้องมีหลักฐานตรวจสอบได้ และเปิดเผยได้ ไม่ใช่ทำเงียบ ๆ ใต้โต๊ะ”
ผมนั่งฟังแล้วรู้สึกว่า การกำกับดูแลที่ดี…ไม่ใช่การควบคุม แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกคนตั้งแต่เกษตรกร ไปจนถึงผู้บริโภคที่ซื้อผักหนึ่งกำมือจากตลาด
3) สื่อสาร — เพื่อให้คนไทยรู้ว่า ‘มันคืออะไร’ ก่อนจะ ‘กลัวมัน’
เธอบอกว่ากรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานเครือข่าย จัดสัมมนาไปแล้ว มากกว่า 30 ครั้ง นอกจากนี้ยังสื่อสารผ่าน YouTube, TikTok, เฟซบุ๊ก สำหรับชาวโซเชียลในยุค IOT เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเทคโนโลยีนี้ ก่อนที่ความกลัวจะมาก่อนข้อมูลจริง
ผมชอบประโยคของเธอมาก
> “ข้อมูลที่ดี ต้องไปให้ถึงมือประชาชน ไม่ใช่เก็บไว้แต่บนเวทีหรือห้องประชุมของนักวิชาการ”
มันตรงใจผมสุด ๆ
เพราะเวลาคนกลัวเทคโนโลยีใหม่ ๆ
ส่วนใหญ่ไม่ใช่เพราะมันอันตราย
แต่เพราะ…ไม่มีใครอธิบายให้เขาฟังแบบง่าย ๆ
สุดท้าย…ผมคิดเงียบ ๆ ว่า ตอนเช้าผมได้ฟัง ดร.ชาลินี ทำให้ผมเข้าใจว่า GEd คืออะไร
ผมได้ฟัง ดร.ปิยรัตน์ ทำให้ผมมั่นใจว่า “คนที่ดูแลเรื่องนี้กำลังทำงานอย่างตั้งใจจริง ๆ”
และผมก็คิดว่า…
เวลาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาในบ้านเรา
สิ่งที่เราต้องการอาจไม่ใช่คำพูดหรู ๆ
แต่เป็นคนทำงานที่ “วิจัยอย่างจริงใจ ดูแลอย่างโปร่งใส และสื่อสารอย่างเข้าใจ”
เหมือนต้นไม้ที่ถูกแต่งกิ่งอย่างพอดี
มันไม่ได้เติบโตเร็วขึ้นเพราะมีเวทมนตร์
แต่มันเติบโตได้ดี…เพราะมีคนดูแลมันอย่างถูกวิธี
และผมหวังว่าเทคโนโลยีนี้…จะเติบโตช่วยชาติได้แบบนั้นเหมือนกัน





