วันนี้ผมนำข้อมูลจาก โปสเตอร์ของกรมส่งเสริมการเกษตร มาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่าย ๆ
เพราะเป็นข้อมูลสำคัญที่ “เกษตรกรทุกคนควรรู้” โดยเฉพาะเรื่องการเผา และโอกาสสร้างรายได้จากเศษวัสดุในไร่ของเราเอง
ประเทศไทยมีเศษวัสดุเหลือใช้จำนวนมาก
ตามข้อมูลกรมส่งเสริมฯ ประเทศไทยมีเศษวัสดุทางการเกษตร 110–130 ล้านตันต่อปี
แต่สิ่งที่น่าตกใจคือ… มีมากกว่า 63 ล้านตัน “ถูกทิ้งและไม่ได้ใช้ประโยชน์”
ความจริง สิ่งที่เรามองว่าเป็น “ของเหลือ” จริง ๆ แล้วเป็น “ทรัพยากร” ที่ไม่ถูกนำมาใช้
4 ชนิดเศษวัสดุที่เหลือมากที่สุด
ตามโปสเตอร์… 4 รายการนี้คือของที่เกษตรกรมีอยู่ในแปลงแทบทุกจังหวัด
1. ฟางข้าว
2. ใบ–ยอดอ้อย
3. เศษข้าวโพด
4. เหง้ามันสำปะหลัง
ทั้งหมดนี้คือ “วัตถุดิบ” ที่ตลาดต้องการ แต่ถูก “เผาทิ้ง” มากที่สุดเช่นกัน
ทำไมยังมีการเผา?
ข้อมูลกรมส่งเสริมฯ ชี้ชัดว่า เกษตรกรเผาเพราะ…
เศษวัสดุกระจายตามแปลง ไม่ได้รวมในโรงงาน
เก็บรวบรวมยาก ค่าขนส่งสูง จึงเลือก “เผา” เพื่อเคลียร์พื้นที่เร็วที่สุด
แต่ผลคือ…
มีส่วนทำให้เกิด PM2.5 ประมาณ 23%
นี่คือปัญหาระดับประเทศ และเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องช่วยกันลดการเผา
สิ่งที่รัฐกำลังทำ กรมส่งเสริมฯ ระบุแนวทางไว้ชัดเจน ได้แก่
ใช้ข้อมูล Risk Map
ระบุพื้นที่เสี่ยงเผา เพื่อจัดการล่วงหน้า
ใช้ข้อมูลดาวเทียม + Hotspot
เตือนพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดจุดความร้อน
ใช้ “9 ทางเลือกจัดการเศษวัสดุ” แทนการเผา
เช่น ทำปุ๋ย ทำปุ๋ยหมัก ทำเชื้อเพลิงชีวมวล ทำไบโอชาร์ ฯลฯ
สร้างตลาดและโครงสร้างพื้นฐาน
ตั้งจุดรวบรวม – แปรรูป – แปลงสินค้า เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
ส่งเสริมพืชหมุนเวียน
ลดปริมาณเศษวัสดุ และทำให้ดินดีขึ้น
สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกร “ไม่เผา”
ทั้งด้านราคา การรับซื้อ และการสนับสนุนเทคโนโลยี
แล้ว “โอกาสรายได้” ของเกษตรกรอยู่ตรงไหน?
นี่คือสิ่งที่ผมอยากย้ำ — และสำคัญที่สุดสำหรับเกษตรกร
เศษวัสดุ = รายได้เพิ่มได้ทันที หากไม่เผา
โยงกับ 9 ทางเลือกของกรมส่งเสริมฯ เกษตรกรมีโอกาสดังนี้
1. ขายฟาง–ใบอ้อย–ซังข้าวโพด โรงงานเชื้อเพลิงชีวมวล, ฟาร์มโค–กระบือ, ฟาร์มเห็ด ต้องการตลอดปี
2. ทำปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุน ลดค่าใช้จ่ายปุ๋ยเคมีได้ 20–40%
3. ทำไบโอชาร์ขาย หลายพื้นที่เริ่มรับซื้อในราคาดีมาก เพราะใช้ปรับปรุงดินและลดคาร์บอน
4. ส่งขายจุดรวบรวมของชุมชน กรมส่งเสริมฯ เริ่มสนับสนุนจุดรับซื้อหลายจังหวัด
5. รวมกลุ่มทำผลิตภัณฑ์ชุมชน ปุ๋ยหมัก–ดินผสม–วัสดุปลูก — เป็นสินค้าตลาดต้องการสูง
ข้อความสำคัญที่สุดที่ผมอยากฝากถึงเกษตรกร
จากข้อมูลในโปสเตอร์กรมส่งเสริมฯ ทั้งหมดนี้ สรุปได้ชัดเจนว่า…
“หยุดเผา = มีรายได้เพิ่ม และต้นทุนลดลง”
“สิ่งที่เคยทิ้ง คือสินค้าที่ตลาดต้องการ”
รัฐบาลและกรมส่งเสริมฯ มีแนวทางพร้อมแล้ว
แต่ “โอกาสรายได้” จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเกษตรกรเริ่มที่แปลงของตัวเอง
ประเทศไทยมีเศษวัสดุเหลือใช้จำนวนมาก
ส่วนใหญ่ถูกเผา → ทำให้เกิด PM2.5
กรมส่งเสริมฯ มี 9 ทางเลือกแทนการเผา
หากเกษตรกร “ไม่เผา” → มีรายได้เพิ่มทันที
ฟาง ใบอ้อย ซังข้าวโพด เหง้ามัน = เงินใหม่ในมือเกษตร




