เทคโนโลยีผลิตลิ้นจี่ฝาง ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นแหล่งปลูกลิ้นจี่ที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ เป็นลิ้นจี่อัตลักษณ์เมืองฝาง มีสภาพภูมิอากาศที่เหมาะกับการปลูกลิ้นจี่เป็นอย่างมาก เพราะมีอากาศหนาวเย็น ลิ้นจี่อาศัยอากาศเย็นในการสร้างดอก ลิ้นจี่พันธุ์จักรพรรดิ เป็นพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของอำเภอฝาง กลิ่นหอมหวาน สด ฉ่ำน้ำ ให้ผลผลิตลูกโตเต็มปาก หวานฉ่ำ แต่ในปัจจุบันพื้นที่ปลูกลดลงไปมาก เหลือเพียง 23,853 ไร่

204146

ปัจจุบันสภาพอากาศไม่ได้เอื้ออำนวยในการปลูกลิ้นจี่เหมือนที่ผ่านมา ฤดูหนาวล่าช้ากว่าปกติและมีสภาพอากาศแปรปรวนทำให้ลิ้นจี่ออกดอกน้อยลงแตกเป็นใบอ่อนเพิ่มขึ้น การผลิตลิ้นจี่ไม่ประสบความสำเร็จประกอบกับราคาตกต่ำต่อเนืองหลายปี เกษตรกรจึงหันไปปลูก ส้มสายน้ำผึ้ง ทุเรียน เงาะ ทดแทน

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ เห็นความสำคัญว่า การปลูกลิ้นจี่ซี่งเป็นพืชดั้งเดิมของจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอฝางเป็นแหล่งสุดท้ายของการผลิตลิ้นจี่ในจังหวัดเชียงใหม่ จึงมีแนวคิดจัดทำแปลงเรียนรู้การผลิตลิ้นจี่จักรพรรดิ อย่างมีคุณภาพให้ได้มาตรฐานตามการผลิตเกษตรดีที่เหมาะสม โดยการใช้เทคโนโลยีของกรมวิชาการเกษตรในการผลิตลิ้นจี่คุณภาพดังนี้

4815

การควั่นกิ่งแบบวงแหวนเมื่อใบชุดที่ 2 เป็นใบเพสลาด (กิ่งแก่กิ่งอ่อน) จากนั้น 15 วัน พ่นปุ๋ยทางใบสูตร 0-52-34 อัตรา 1% (2 กิโลกรัม/น้ำ 200 ลิตร) ผสมเอทิฟอนอัตรา 800 มิลลิกรัม/ลิตร (300 ซีซี/น้ำ 200 ลิตร) พ่นจำนวน 3 ครั้ง ห่างกัน 5 วัน ทำให้ลิ้นจี่ออกดอกเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 และ ทำให้ลิ้นจี่ออกดอกทุกปีติดผลมากขึ้น และร่วงหล่นน้อยลง

การห่อผล ด้วยถุงห่อผลไม้เมื่อผลลิ้นจี่เริ่มเปลี่ยนสี ช่วยพัฒนาสีผิวและป้องกันความเสียหายเนื่องจากพายุที่อาจจะมีลูกเห็บเกิดขึ้น

การแต่งกิ่ง เป็นทรงพุ่มเตี้ย แต่งกิ่งทันทีหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ไม่เปิดกลางทรงพุ่มมากเกินไปป้องกันแดดเผาเปลือกลำต้นและกิ่ง ทำให้จัดการแปลงได้ทั่วถึง เช่น พ่นสาร แต่งช่อผล เก็บเกี่ยว และลดความเสียหายจากพายุ

72216

การใช้สารเคมีตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตรในการควบคุมหนอนเจาะขั้วผลลิ้นจี่ คือ อิมิดาคลอพริด 10% SL (กลุ่ม 4A) 40 มิลลิลิตร./น้ำ 20 ลิตร หรือคาร์บาริล 85% WP (กลุ่ม 1A) 45 กรัม/น้ำ 20 ลิตร หรือฟิโพรนิล 5% SC 40 มิลลิลิตร./น้ำ 20 ลิตร พ่น 3 ครั้ง ห่าง 7 วัน เริ่มพ่นเมื่อผลอายุ 40 วัน งดพ่นก่อนการเก็บเกี่ยว 14 วัน พ่นยาชนิดเดียวกันติดต่อไม่เกิน 2 ครั้ง ควรสลับกลุ่มยาเพื่อป้องกันแมลงดื้อยา ทำให้หนอนเจาะขั้วผลลดลงร้อยละ 80 จากทุกปีที่ผ่านมา

การผสมปุ๋ยใช้เองจากแม่ปุ๋ย ลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีได้ร้อยละ 22

การปลูกลิ้นจี่พันธุ์เบาที่ต้องการอากาศหนาวเย็นน้อยในการสร้างตาดอก ได้แก่ พันธุ์จีนแดง ค่อม และนครพนม 1 ที่ออกดอกทุกปี และเก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนพันธุ์ฮงฮวยและจักรพรรดิ เป็นการเพิ่มทางเลือกและกระจายผลผลิตช่วงเก็บเกี่ยว

72215

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวในตอนท้ายว่า การใช้เทคโนโลยีการผลิตลิ้นจี่ของกรมวิชาการเกษตร ทำให้เกษตรกรลดต้นทุน เพิ่มรายได้ ปลอดภัยจากสารเคมีและผลผลิตมีคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ช่วยรักษาอัตลักษณ์ของลิ่นจี่พื้นที่สุดท้ายของจังหวัดเชียงใหม่ไว้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุมิตร วิลัยพร นักวิชาการเกษตรชำนาญการ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ 053-451441-3

72212