รองปลัดเกษตรฯเยี่ยมชมงาน Pet Fair South East Asia 2022 ชี้เป็นโอกาสสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรและภาคธุรกิจไทย ยกระดับสู่ความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงในตลาดโลก
นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเยี่ยมชมงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจสัตว์เลี้ยงครบวงจรสำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “Pet Fair South East Asia 2022” ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา Hall 103-104 ว่า การจัดงาน Pet Fair South East Asia 2022 ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมจัดงานกว่า 150 บริษัท จาก 35 ประเทศ มีการเจรจาธุรกิจซึ่งถือเป็นงานเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสัมมนาในหัวข้อต่างๆ จากสมาคมหน่วยงานและบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงจากทั่วโลก ซึ่งจะช่วยพัฒนาภาคธุรกิจอาหารสัตว์ของประเทศไทยไปอีกขั้น
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการแสดงสินค้าอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยง และการพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร อาทิ อาหารสัตว์ การเลี้ยงสัตว์ สุขภาพสัตว์ ตลอดจนการบริการสำหรับสัตว์เลี้ยง รวมถึงการเชื่อมโยงของภาคธุรกิจระหว่างประเทศ และพร้อมเป็นจุดเริ่มต้นในการผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงแบบครบวงจร ผู้เข้าชมงานจะได้พบปะกับผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบรนด์ชั้นนำของประเทศไทยและต่างประเทศ รวมถึงผลิตภัณฑ์ทั่วไปสำหรับสัตว์เลี้ยง
อาทิ ของเล่น เสื้อผ้าและเครื่องประดับ สายจูง ปลอกคอ บ้านและเฟอร์นิเจอร์สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์ดูแลความสะอาด และผลิตภัณฑ์รักษาสุขภาพสัตว์หลากหลายรูปแบบ ไปจนถึงธุรกิจการออกฉลากอาหารสัตว์เลี้ยงในผลิตภัณฑ์ส่วนตัว(OEM) และผู้ผลิตวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์
“อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของประเทศไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด นำรายได้เข้าประเทศจากการส่งออกเป็นอันดับ 3 ของโลก ประมาณปีละ 65,000 ล้านบาท และ 9 เดือนแรกของปี 2565 (ม.ค.-ก.ย.65) สามารถส่งออกไปแล้ว กว่า 75,000 ล้านบาท ด้วยตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงของประเทศไทยสามารถตอบสนอง ต่อตลาดทั้งระดับกลางและระดับบนได้เป็นอย่างดีอาหารสัตว์เลี้ยงไทยมีคุณภาพ มาตรฐานปลอดภัยและระบบการผลิตที่สร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ functional food ที่สามารถส่งเสริมสุขภาพสัตว์เลี้ยงเฉพาะทาง โดยกระทรวงเกษตรฯ พร้อมที่จะสนับสนุนเกษตรกรและภาคธุรกิจ ทั้งในด้านของมาตรฐานต่างๆ ให้เป็นที่ยอมรับของตลาดทั่วโลก และในเรื่องของเทคโนโลยี และนวัตกรรมในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยง ดังนั้นจากสถานการณ์ขณะนี้ ถือเป็นโอกาสของเกษตรกรไทยและภาคธุรกิจ ที่จะรักษาตลาดเดิมไว้และเร่งพัฒนาเพื่อขยายตลาดทั่วโลกต่อไป“ รองปลัดเกษตรฯ กล่าว
ทั้งนี้ ความสำเร็จของการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของประเทศไทยและเป็นที่เชื่อถือของประเทศคู่ค้านั้นเกิดจากความร่วมมือหลายฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เครือข่าย สมาคม ชมรมที่เกี่ยวข้องทั้งหมดภายใต้การกำกับดูแลด้านคุณภาพ มาตรฐาน ที่รับผิดชอบโดยกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น กรมปศุสัตว์จะจัดตั้งศูนย์บริการด้านอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเบ็ดเสร็จ (Pet Food Service Center)ขึ้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร และชาชนทั่วไป ที่มาขอรับบริการด้านอาหารสัตว์เลี้ยง ทั้งการขออนุญาต ขึ้นทะเบียน การออกใบรับรอง การออก Health Certificate การส่งออก เป็นต้น และดำเนินการให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด ทั้งระดับกลางและระดับบน ภายใต้ คุณภาพ มาตรฐาน และเงื่อนไขที่ประเทศคู่ค้ากำหนด