เทคโนโลยีเกษตรพลิกโลก พื้นที่น้อย เฉลิมชัย หนุนการทำฟาร์มเกษตรแนวตั้ง

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า

จากการเปลี่ยนแปลงของโลก สร้างปัญหาให้กับธรรมชาติ ดินเสื่อมโทรม อากาศไม่เหมาะสม ที่ดินไม่เพียงพอ สำหรับใช้ประกอบเกษตรกรรม จึงมีแนวคิด “การทำเกษตรกรรมในเมือง” (Urban Farming) และ “การทำเกษตรกรรมแนวตั้ง” (Vertical Farming) ที่สามารถควบคุมปัจจัยแวดล้อมได้ ใช้พื้นที่น้อย แต่ให้ผลผลิตในจำนวนมหาศาล

317232378 711391537015965 7849014839192721440 n 1

แนวคิดนี้มีการนำไปใช้เกือบทุกประเทศทั่วโลก เช่น เยอรมนี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีข้อมูลว่าอเมริกานั้น กำลังวางแผนสร้างฟาร์มแนวตั้งที่ใหญ่ที่สุดในโลกบนรัฐเพนซิลเวเนีย

317081758 711391593682626 7410860787799264467 n
ฟาร์มแนวตั้ง

ประเทศไทยของเราเอง ตอนนี้เริ่มมีโรงงานผลิตพืชและการทำเกษตรแนวดิ่งเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ที่ในปัจจุบันมีโรงงานผลิตพืชในเชิงพาณิชย์อยู่ประมาณ 5 บริษัท เช่น บารมีพิรุณ Plant Factory ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ซึ่งทั้ง 5 แห่งนี้มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ต่างกันในการดำเนินการเพาะปลูก อย่างของบารมีพิรุณเองจะมีการเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์เพื่อสร้าง ideal conditions สำหรับพืชแต่ละตัว เพื่อให้ผลผลิตที่ได้นั้นดีที่สุดนั่นเอง นอกเหนือจากในกรุงเทพแล้วยังมีในจังหวัดอื่น เช่น บุรีรัมย์ ที่มีโรงปลูกกัญชาที่ใช้แสงเทียม หรืออย่างของ สวทช.ที่มีการสร้าง Plant Factory เพื่อทำการวิจัยในการปลูกสมุนไพรหรือดอกไม้

317090563 711391567015962 2332298498046661885 n
ฟาร์มแนวตั้ง

แม้พืชผลส่วนใหญ่ของโลกยังคงปลูกในฟาร์มแบบดั้งเดิม แต่การทำฟาร์มแนวตั้งอาจกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่จะเลี้ยงปากท้องผู้คนในอนาคต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ศัตรูตัวฉกาจของการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม แม้เทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยพัฒนาพืชผลให้เหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งกว่าเดิม แต่ความสามารถของฟาร์มแนวตั้งในการผลิตที่มากขึ้นในพื้นที่เท่าเดิม จะมีบทบาทมากขึ้นเมื่อประชากรโลกสูงขึ้นในอนาคต

316803640 711391630349289 9152214941235494605 n
ฟาร์มแนวตั้ง

เกษตรแนวตั้ง คืออะไร

“เกษตรแนวตั้ง” เป็นการเพาะปลูกพืชในอาคารหรือโรงเรือนในลักษณะเป็นชั้นแนวดิ่ง โดยใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการเพาะปลูก ทั้งการควบคุมแสง ความชื้น ความเป็นกรด-ด่าง และอุณหภูมิของวัสดุปลูก ระบบการให้น้ำ การควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช รวมทั้งการคัดเลือกพันธุ์พืช นอกจากนั้นบางแห่งยังมีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และคอมพิวเตอร์ เข้ามาบริหารจัดการโรงเรือนอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้การทำเกษตรกรรมแนวตั้งสามารถเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ในพื้นที่ขนาดจำกัด และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและปริมาณสูงกว่าการทำเกษตรกรรมทั่วไป

นอกจากนั้น การทำเกษตรกรรมในอาคารยังสามารถนำเทคโนโลยีการกำจัดและบำบัดของเสียมาใช้ร่วมด้วย ทั้งการบำบัดน้ำและการนำกลับมาใช้ใหม่ การนำเศษพืชผักผลิตเป็นพลังงานชีวมวล เป็นต้น ในส่วนของพลังงานแสงนั้น สามารถใช้ได้ทั้งแสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ผ่านแผงเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์ (solar cell) และแสงประดิษฐ์จากหลอด LED

ทั้งนี้ การทำเกษตรกรรมแนวตั้ง หรือเกษตรกรรมในอาคาร สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการทำเกษตรกรรม และสามารถลดข้อจำกัดต่าง ๆ ในการทำเกษตรกรรมแบบทั่วไปได้ ได้แก่ ข้อจำกัดด้านสภาพภูมิศาสตร์ สภาพภูมิอากาศ โรคและแมลงศัตรูพืช ทรัพยากรดิน ทรัพยากรน้ำ และการควบคุมผลผลิต รวมทั้ง ปัญหาที่ดินจำกัด หรือพื้นที่ที่มีทรัพยากรดินที่ไม่สามารถเพาะปลูกพืชได้

นอกจากนั้น การทำเกษตรกรรมบนอาคารสูงในเมืองยังลดการขนส่งผลผลิตจากชนบทมาสู่เมือง ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคเกษตรกรรมและการขนส่ง และลดปัญหาการชะหน้าดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินที่ไม่เหมาะสมได้อีกด้วย