ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 สยบโรคกุ้งแห้งพริกสำเร็จ  

สวพ.3 ลุยขับเคลื่อนนโยบายกรมวิชาการเกษตรขยายผลต่อยอดเทคโนโลยีผลิตชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 สยบโรคกุ้งแห้งพริกสำเร็จ ชูจุดเด่นชีวภัณฑ์ผลิตขยายได้ง่ายในนมกล่อง ต้นทุนต่ำเพียงไร่ละ600 บาท ลดการระบาดโรคได้กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ เกษตรกรเฮเก็บผลผลิตได้เพิ่มมากกว่า 5 รุ่น   

โรคแอนแทรคโนส หรือที่เกษตรกรเรียกว่าโรคกุ้งแห้งพริก เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดความเสียหายมากที่สุดต่อการปลูกพริกของเกษตรกรทั่วทุกภาคโดยเฉพาะในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เนื่องจากเป็นโรคที่สามารถเข้าทำลายต้นพริกได้ทุกระยะการเจริญเติบโตทั้งต้น ใบ ดอก และผลพริกทำความเสียหายแก่ผลผลิตทั้งก่อนและหลังเก็บเกี่ยวสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ 

82CC28AB A970 4DAB A5FC 9D19ADC013C1

สวพ.3 จึงได้วิจัยและพัฒนาชีวภัณฑ์ชนิดใหม่ โดยนำเชื้อแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับทิลิส (บีเอส) ที่มีการคัดเลือกเบื้องต้นจากห้องปฏิบัติการต่างๆ มาศึกษาต่อยอด  ทดสอบประสิทธิภาพการยับยั้งเชื้อราสาเหตุโรคแอนแทรคโนสของพริก และพัฒนาวิธีการผลิตให้เป็นชีวภัณฑ์แบบพร้อมใช้ที่ผลิตขยายได้ง่ายและต้นทุนต่ำ 

จนได้ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช(สอพ.)หน่วยงานในส่วนกลางของกรมวิชาการเกษตร ได้ทดสอบว่ามีประสิทธิภาพสามารถควบคุมโรคกุ้งแห้งพริกได้ผล โดยชีวภัณฑ์ บีเอส ดีโอเอ-19W6 มีจุดเด่นที่สามารถผลิตขยายได้ง่ายเกษตรกรสามารถผลิตเองได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยและพัฒนา

D84965BA 814E 4540 9DC1 5DCD6A20E8FD

การผลิตขยายชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6  มีวิธีการที่ไม่ยุ่งยากวัสดุอุปกรณ์สามารถหาได้ง่าย ประกอบด้วย หัวเชื้อ บีเอส ดีโอเอ-19W6  นมกล่องสเตอริไลส์ (นม UHT)รสจืดยี่ห้อใดก็ได้ เข็มฉีดยาขนาดเบอร์ 25 กระบอกฉีดยาขนาด 5 มิลลิลิตรและสก็อตเทปใส วิธีการผลิตขยายให้แกะฝากล่องนมบริเวณด้านข้างให้ยืดขึ้นไปเป็นรูปสามเหลี่ยม และมองเห็นจุดฟอยล์สีเงินสำหรับแทงหลอดดูดชัดเจน  

จากนั้นนำเข็มฉีดยาต่อกับกระบอกฉีด แล้วดูดหัวเชื้อบีเอส ดีโอเอ-19W6 ปริมาตร 2 มิลลิลิตร จากขวดหัวเชื้อและฉีดหัวเชื้อ บีเอส ดีโอเอ-19W6 ลงในนม ปริมาตร 200 มิลลิลิตร(1 กล่อง) ตรงบริเวณกระดาษฟอยล์สีเงินสำหรับแทงหลอดดูด แล้วจึงใช้สก็อตเทปใสปิดทับบริเวณรอยที่ฉีดหัวเชื้อลงไป เพื่อป้องกันการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่น นำไปเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 วัน เพื่อให้เชื้อแบคทีเรียขยายเพิ่มปริมาณในนม ก่อนจะนำไปใช้ 

หากใช้ไม่หมดสามารถเก็บไว้ได้ 12 วัน ที่อุณหภูมิห้อง ส่วนเข็มฉีดยาที่ใช้แล้วสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้โดยก่อนเก็บให้นำไปต้มในน้ำเดือดประมาณ 5 นาที  และก่อนนำมาใช้ในครั้งต่อไปให้ต้มในน้ำเดือดอีกประมาณ 5 นาที

D8745919 1BB0 485F A61B B77346B3F519

สำหรับวิธีการใช้ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ป้องกันกำจัดโรคกุ้งแห้งพริก ดร.รัติกาล ยุทธศิลป์ นักวิจัยหลักที่พัฒนาต่อยอด จนได้ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ได้ให้คำแนะนำว่าในระยะต้นกล้า ให้นำชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ที่ขยายในนม อัตรา 100 มิลลิลิตร ผสมน้ำ 20 ลิตร และสารจับใบ (อัตราตามคำแนะนำข้างฉลาก) พ่นลงบนต้นกล้าที่เริ่มมีใบจริง (อายุประมาณ 10 วัน หลังเพาะ) และพ่นซ้ำทุก 7 วันจนกว่าจะย้ายปลูก และในระยะที่พริกติดดอกและเริ่มติดผลเขียว ให้นำชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6 ในอัตราดังกล่าวพ่นทุก 7 วัน จนกว่าจะเก็บผลผลิตหมด โดยควรพ่นตอนเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนจากแสงแดด และพ่นให้ทั่วทั้งต้นจนเปียก

DFD35C25 15B4 4193 8EF5 90B29DB96EE3

“ชีวภัณฑ์บีเอส ดีโอเอ-19W6”สามารถควบคุมโรคกุ้งแห้งพริกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การระบาดของโรคลดลงกว่า 60เปอร์เซ็นต์ ที่สำคัญคือสามารถผลิตขยายได้ง่ายในนมกล่อง ใช้ต้นทุนต่ำเพียงไร่ละประมาณ 600 บาท โดยเชื้อที่ขยายในนม 2กล่อง ผสมน้ำสามารถพ่นพริกได้จำนวน1ไร่ ทำให้เกษตรกรได้ผลผลิตเพิ่มขึ้นกว่า12% และยังสามารถเก็บผลผลิตได้มากกว่า 5รุ่น ซึ่งหากมีโรคกุ้งแห้งพริกระบาดเกษตรกรจะเก็บผลผลิตได้ไม่เกิน 2รุ่น 

โดยที่ผ่านมา สวพ.3 ได้ผลิตและกระจายหัวเชื้อให้เกษตรกรนำไปใช้ป้องกันและกำจัดโรคกุ้งแห้งพริกแล้วในจังหวัดขอนแก่น กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ และนครพนม 

B89B57B3 2134 4C97 9A3D 4D8733A3D639

เกษตรกรที่ประสบปัญหาการระบาดของโรคกุ้งแห้งพริกสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 043-203500 ต่อ 292