คำตอบคือ…ง่ายกว่าที่หลายคนคิด
และเกษตรกรทุกคน ไม่ว่าจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ก็สามารถทำได้
เริ่มจากพื้นที่ของเราเอง
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “กระบวนการผลิต”หรือ “ระบบการผลิต” ระดับแปลงปลูกหรือฟาร์ม
ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่ถูกต้อง
ซึ่งอยู่ภายใต้ มาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.)
โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ
GAP (Good Agricultural Practices)
การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี สำหรับพืช เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว
GAP (Good Animal Agricultural Practices)
การปฏิบัติทางการเลี้ยงสัตว์ที่ดี เช่น โค ไก่ หมู และสัตว์อื่น ๆ
GAqP (Good Aquaculture Practices)
การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ฟาร์มเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำจืด
ทุกประเภทมีเป้าหมายเดียวกัน คือ “ทำให้สินค้าปลอดภัย มีคุณภาพ และตรวจสอบย้อนกลับได้”
ตัวอย่างการทำให้ได้ตามมาตรฐาน
ด้านพืช: จัดการดิน น้ำ และปุ๋ยให้เหมาะสม
ใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง และเฉพาะเมื่อจำเป็น
ดูแลแปลงให้สะอาด เก็บเกี่ยว และขนส่งอย่างถูกวิธี
ด้านปศุสัตว์: จัดการฟาร์ม ดูแลสุขภาพสัตว์ให้เหมาะสม ทั้งการป้องกันและควบคุมโรค และการบำบัดโรคสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ การจับและการจัดการตัวสัตว์ และผลิตผล สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการบันทึกข้อมูล
ด้านสัตว์น้ำ: การจัดการฟาร์ม การใช้ยาสัตว์และสารเคมี สุขลักษณะในฟาร์ม การจับและ การปฏิบัติหลังการจัดก่อนการขนส่งออกจากฟาร์ม ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การบันทึกข้อมูล
จดรายละเอียดตั้งแต่วันเริ่มปลูกหรือเลี้ยง
ชนิดของปุ๋ยหรืออาหารที่ใช้
วันให้น้ำ ฉีดพ่น ให้อาหาร หรือเก็บเกี่ยว
ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการตรวจประเมิน
และยังช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ หากเกิดปัญหาในภายหลัง
ขั้นตอนการขอรับรองเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q
การขอรับรองสามารถทำได้กับทุกประเภทสินค้าเกษตร
โดยยื่นขอกับหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบแต่ละด้าน ดังนี้
กรมวิชาการเกษตร สำหรับพืชและผลิตภัณฑ์พืช
กรมปศุสัตว์ สำหรับสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
กรมประมง สำหรับสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ
ขั้นตอนโดยทั่วไปคือ
1. ติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่
2. ยื่นคำขอรับการตรวจประเมิน
3. เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิต ตรวจสารตกค้างหรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ
4. หากผ่านเกณฑ์ จะได้รับ ใบรับรองมาตรฐาน (GAP / GAqP) และสิทธิ์ในการใช้ “เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” สำหรับการรับรอง GAP บนสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
หมายเหตุสำคัญ
สำนักงานเกษตรอำเภอ (สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร) ไม่ได้เป็นผู้ออกเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q โดยตรงแต่สามารถเป็น “พี่เลี้ยง” ที่ช่วยให้คำปรึกษา แนะนำวิธีเตรียมความพร้อม และประสานงานกับหน่วยงานที่ออกใบรับรองได้
ทุกคนทำได้…แค่เริ่มต้น
หลายคนคิดว่า “เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” เป็นเรื่องไกลตัว หรือเหมาะกับเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น
แต่ความจริงคือ เกษตรกรรายย่อยก็สามารถขอรับรองได้ ถ้ามีความตั้งใจพัฒนาให้กระบวนการผลิตระดับฟาร์มหรือแปลงปลูกได้มาตรฐาน
“เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” ไม่ใช่ภาระ แต่มันคือ “โอกาส” มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่มันคือ “ความมั่นใจ” และมันไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ แต่มันคือ “อนาคต” ของสินค้าเกษตรไทย
“เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” คือจุดเริ่มต้นของความยั่งยืน
ไม่ว่าจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์
หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
เมื่อเราทำให้สินค้าของเรามีมาตรฐาน GAP หรือ GAqP
ก็เท่ากับว่าเรากำลังสร้างอนาคตให้กับทั้งตัวเราเอง และเกษตรกรไทยทั้งประเทศ
สรุปสั้น ๆ
เกษตรกรทุกประเภทสามารถขอมาตรฐาน Q ได้
ยื่นขอกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ (กรมวิชาการเกษตร / กรมปศุสัตว์ / กรมประมง)
ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) / การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี.(GAqP)
บันทึกข้อมูลการผลิตทุกขั้นตอน
ผ่านตรวจตามมาตรฐาน GAP หรือ GAqP → ได้ใบรับรอง → ใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q ได้ถูกต้อง





