ซีรีส์ Q เครื่องหมายคุณภาพเปลี่ยนชีวิตเกษตรกร ตอนที่ 2 เมื่อเข้าใจแล้วว่าทำไม “ตรา Q” ถึงสำคัญ ขั้นตอนต่อไป“ทำอย่างไรจึงจะได้มันมา”

คำตอบคือ…ง่ายกว่าที่หลายคนคิด

และเกษตรกรทุกคน ไม่ว่าจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ก็สามารถทำได้ 🌾

🧭 เริ่มจากพื้นที่ของเราเอง

สิ่งสำคัญที่สุดคือ “กระบวนการผลิต”หรือ “ระบบการผลิต” ระดับแปลงปลูกหรือฟาร์ม

ต้องเป็นไปตามหลักวิชาการและมาตรฐานที่ถูกต้อง

ซึ่งอยู่ภายใต้ มาตรฐานสินค้าเกษตร (มกษ.)

โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก คือ

🌿 GAP (Good Agricultural Practices)

การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี สำหรับพืช เช่น ผัก ผลไม้ ข้าว

🐄 GAP (Good Animal Agricultural Practices)

การปฏิบัติทางการเลี้ยงสัตว์ที่ดี เช่น โค ไก่ หมู และสัตว์อื่น ๆ

🐟 GAqP (Good Aquaculture Practices)

การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี เช่น ฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ฟาร์มเพาะพันธุ์และอนุบาลสัตว์น้ำจืด

ทุกประเภทมีเป้าหมายเดียวกัน คือ “ทำให้สินค้าปลอดภัย มีคุณภาพ และตรวจสอบย้อนกลับได้”

🌾 ตัวอย่างการทำให้ได้ตามมาตรฐาน

🌿 ด้านพืช: จัดการดิน น้ำ และปุ๋ยให้เหมาะสม

ใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง และเฉพาะเมื่อจำเป็น

ดูแลแปลงให้สะอาด เก็บเกี่ยว และขนส่งอย่างถูกวิธี

🐄 ด้านปศุสัตว์: จัดการฟาร์ม ดูแลสุขภาพสัตว์ให้เหมาะสม ทั้งการป้องกันและควบคุมโรค และการบำบัดโรคสัตว์ สวัสดิภาพสัตว์ การจับและการจัดการตัวสัตว์ และผลิตผล สิ่งแวดล้อม รวมทั้งการบันทึกข้อมูล

🐟 ด้านสัตว์น้ำ: การจัดการฟาร์ม การใช้ยาสัตว์และสารเคมี สุขลักษณะในฟาร์ม การจับและ การปฏิบัติหลังการจัดก่อนการขนส่งออกจากฟาร์ม ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

📑 สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือ “การบันทึกข้อมูล

จดรายละเอียดตั้งแต่วันเริ่มปลูกหรือเลี้ยง

ชนิดของปุ๋ยหรืออาหารที่ใช้

วันให้น้ำ ฉีดพ่น ให้อาหาร หรือเก็บเกี่ยว

ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลักฐานสำคัญที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการตรวจประเมิน

และยังช่วยให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ หากเกิดปัญหาในภายหลัง

🧪 ขั้นตอนการขอรับรองเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q

การขอรับรองสามารถทำได้กับทุกประเภทสินค้าเกษตร

โดยยื่นขอกับหน่วยงานรัฐที่รับผิดชอบแต่ละด้าน ดังนี้ 👇

🌿 กรมวิชาการเกษตร สำหรับพืชและผลิตภัณฑ์พืช

🐄 กรมปศุสัตว์ สำหรับสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์

🐟 กรมประมง สำหรับสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ

ขั้นตอนโดยทั่วไปคือ

1. ติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่

2. ยื่นคำขอรับการตรวจประเมิน

3. เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบกระบวนการผลิต ตรวจสารตกค้างหรือปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ

4. หากผ่านเกณฑ์ จะได้รับ ใบรับรองมาตรฐาน (GAP / GAqP) และสิทธิ์ในการใช้ “เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” สำหรับการรับรอง GAP บนสินค้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย

📌 หมายเหตุสำคัญ

สำนักงานเกษตรอำเภอ (สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร) ไม่ได้เป็นผู้ออกเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q โดยตรงแต่สามารถเป็น “พี่เลี้ยง” ที่ช่วยให้คำปรึกษา แนะนำวิธีเตรียมความพร้อม และประสานงานกับหน่วยงานที่ออกใบรับรองได้

🌾 ทุกคนทำได้…แค่เริ่มต้น

หลายคนคิดว่า “เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” เป็นเรื่องไกลตัว หรือเหมาะกับเกษตรกรรายใหญ่เท่านั้น

แต่ความจริงคือ เกษตรกรรายย่อยก็สามารถขอรับรองได้ ถ้ามีความตั้งใจพัฒนาให้กระบวนการผลิตระดับฟาร์มหรือแปลงปลูกได้มาตรฐาน

“เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” ไม่ใช่ภาระ แต่มันคือ “โอกาส” มันไม่ใช่เรื่องยุ่งยาก แต่มันคือ “ความมั่นใจ” และมันไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ แต่มันคือ “อนาคต” ของสินค้าเกษตรไทย

“เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q” คือจุดเริ่มต้นของความยั่งยืน

ไม่ว่าจะปลูกพืช 🌿 เลี้ยงสัตว์ 🐄 หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 🐟

เมื่อเราทำให้สินค้าของเรามีมาตรฐาน GAP หรือ GAqP

ก็เท่ากับว่าเรากำลังสร้างอนาคตให้กับทั้งตัวเราเอง และเกษตรกรไทยทั้งประเทศ 💚

💡 สรุปสั้น ๆ

เกษตรกรทุกประเภทสามารถขอมาตรฐาน Q ได้

ยื่นขอกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ (กรมวิชาการเกษตร / กรมปศุสัตว์ / กรมประมง)

ปฏิบัติตามหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) / การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี.(GAqP)

บันทึกข้อมูลการผลิตทุกขั้นตอน

ผ่านตรวจตามมาตรฐาน GAP หรือ GAqP → ได้ใบรับรอง → ใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q ได้ถูกต้อง

571637277 1631066141547095 4298832318728344916 n 1