“บรอกโคลี” พืชจากต่างแดน คุณค่าทางสารอาหารสูง

“บรอกโคลี”มีลักษณะเป็นทรงพุ่มใหญ่เก้งก้าง ลำต้นใหญ่และอวบ ลักษณะของดอกมีขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 16 เซนติเมตร จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่มช่อหนาแน่นมีสีเขียวเข้ม ส่วนลักษณะของใบจะกว้างมีสีเขียวเข้มออกเทา ริมขอบใบหยัก

“บรอกโคลี”ถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ในทางตอนใต้ของยุโรปแถว ๆ ประเทศอิตาลีและภายหลังได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยโดยแหล่งที่ปลูก”บรอกโคลี”มากที่สุดในบ้านเราก็คือ จังหวัดเพชรบูรณ์ กาญจนบุรี และกรุงเทพ ตามปกติแล้วเราจะนิยมบริโภคในส่วนที่เป็นดอกและในส่วนของลำต้นจะนิยมรองลงมา แต่คุณค่าทางอาหารกลับมีอยู่มากในส่วนของลำต้น ดังนั้นการรับประทานทั้งสองส่วน ร่างกายก็จะได้รับประโยชน์อย่างสูงสุดนั่นเอง

จากการศึกษาวิจัยของมหาลัยอิลลินอยส์พบว่าการรับประทาน ” บรอกโคลี” โดยเฉพาะหน่อหรือต้นอ่อนของ”บรอกโคลี” เมื่อรับประทานร่วมกับ ต้นอ่อนของ “บรอกโคลี” จะช่วยต่อต้านโรคมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เนื่องจากในหน่อหรือต้นอ่อน “บรอกโคลี ” นั้นมีเอนไซม์ไมโรซิเนส (Myrosinase) จะมีปริมาณมากกว่าต้น ” บรอกโคลี” ที่โตแล้ว ซึ่งการรับประทาน “บรอกโครี”เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดจะต้องไม่ผ่านกรรมวิธีการปรุงอาหารที่มีระยะเวลานานจนเกินไป เพราะจะไปทำลายเอนไซม์ไมโรซิเนสและซัลโฟราเฟนได้

         

ath 201406300940082705

“บรอกโคลี” เป็นผักที่รสชาติหวานกรอบ สามารถรับประทานสดได้ หรือจะนำมาประกอบอาหาร ก็ได้หลากหลายเมนู อีกทั้ง”บรอกโคลี” ยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่สูงด้วย เพราะอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน วิตามิน C และสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย รวมไปถึงสารเคมีทางธรรมชาติที่มีชื่อว่า ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) และสารอินดอล (indole) ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านมะเร็ง และการรับประทาน “บรอกโคลี” อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1/2 ถ้วย ก็จะเป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก

การปลูก : การปลูก “บรอกโคลี”จะปลูกจากเมล็ด โดยจะหว่านเมล็ดลงแปลงหรือจะเพาะลงถาดเพาะก็ได้ หากใช้วิธีหว่านเมล็ดลงแปลง ให้นำเมล็ดผสมกับทราย เพื่อให้เมล็ดกระจายตัว ไม่ขึ้นเป็นกระจุก แล้วคลุมด้วยฟาง รดน้ำทุกวัน จากนั้น 20 วัน ถอนต้นที่ไม่สมบูรณ์ออก ให้เหลือระระห่างระหว่างต้น 40×40 เซนติเมตร ถ้าเพาะเมล็ดลงถาดเพาะ 15-20 วันหรือเมื่อต้นกล้ามีใบจริง 4-5 ใบ ก็สามารถนำไปย้ายลงแปลงได้ และให้ปุ๋ยหลังจากย้ายปลูก 7 วัน เน้นปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนเป็นหลัก และเมื่ออายุ 40 วันให้ปุ๋ยอีกครั้งที่เน้นโพแทสเซียม

c5631452 5ddb 426c 8129 7da72d8f1fea

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม :  “บรอกโคลี”เป็นพืชที่ชอบอากาศเย็น เจริญเติบโตได้ดีที่อุณหภูมิ 20-25 องศาเซลเซียส ชอบแสงแดด ดินที่เหมาะสมในการปลูก คือดินร่วนปนทราย มีอินทรีย์วัตถุมาก สามารถอุ้มน้ำได้ดี ค่าความเป็นกรดด่าง (pH) ของดินอยู่ที่ 6-6.8

การเก็บเกี่ยว : เมื่อปลูก”บรอกโคลี”ได้อายุ 60 วัน จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้

การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด