อธิบดีกรมปศุสัตว์เผย ผลแล็ปจากการตรวจเนื้อสัตว์และเครื่องในที่อายัดได้ 25,000 กิโลกรัม จากแหล่งลักลอบผลิตใน จ.ชลบุรี พบเครื่องในที่แช่ในถังมีฟอร์มาลินจริง นอกจากนี้เนื้อสัตว์อีกส่วนที่เก็บในตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นซึ่งเตรียมส่งจำหน่าย พบปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลล่าที่เป็นแบคทีเรียก่อโรค อาจทำให้ปวดท้องและท้องเสีย ล่าสุดฝังกลบทำลายเรียบร้อยแล้ว
นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สำนักตรวจสอบคุณภาพสินค้าปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ ได้รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ จากการเก็บตัวอย่างเนื้อและเครื่องในหมูและวัวแช่ฟอร์มาลีนที่ตรวจยึดได้จากแหล่งลักลอบผลิตในจังหวัดชลบุรีส่งตรวจ โดยผลยืนยันว่า พบสารฟอร์มาลินปนเปื้อนในน้ำและชิ้นส่วนเครื่องในที่แช่ในถัง
นอกจากนี้ยังพบปนเปื้อนเชื้อซาลโมเนลล่าในชิ้นส่วนเนื้อสัตว์ที่แช่แข็งในตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็นซึ่งเตรียมไว้ส่งจำหน่าย โดยเชื้อซาลโมเนลล่าเป็นเชื้อแบคทีเรีย อาจปนเปื้อนระหว่างกระบวนการเชือดชำแหละที่ไม่สะอาดและการเก็บรักษาที่ไม่ถูกสุขอนามัย
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และเจ้าหน้าที่เทศบาลเจ้าพระยาสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เข้ารับมอบชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในและเนื้อหมูและวัวที่อายัดไว้ในสถานประกอบการในพื้นที่เทศบาลเจ้าพระยาสุรศักดิ์ รวมประมาณ 25,000 กิโลกรัม จากเจ้าของสถานประกอบการแล้ว นำมาทำลายทั้งหมดด้วยวิธีฝังกลบในพื้นที่เทศบาลเจ้าพระยาสุรศักดิ์และพื้นที่ด่านกักกันสัตว์ฉะเชิงเทรา
โดยได้พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเพื่อทำลายเชื้อโรคที่สถานประกอบการและในพื้นที่ที่ทำการฝังทำลายด้วย ทั้งนี้เป็นไปตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เนื่องจากซากสัตว์ดังกล่าวไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภคและมีเชื้อก่อโรคที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค
สำหรับเนื้อและเครื่องในที่ปนเปื้อนดังกล่าว กรมปศุสัตว์ตรวจยึดอายัดจากสถานประกอบการแห่งหนึ่งที่ลักลอบผลิตเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 โดยเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ชลบุรีได้เข้าตรวจสอบแหล่งผลิตแปรรูปวัตถุดิบร้านหมูกระทะ ตามข้อร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
ผลการตรวจสอบพบว่า เจ้าของสถานประกอบการไม่สามารถแสดงหลักฐานแหล่งที่มาของเนื้อและชิ้นส่วนเครื่องในหมูและวัว 25,000 กิโลกรัม ที่อยู่ในสถานประกอบการได้ อีกทั้งพบว่า มีการลักลอบใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตได้แก่ ฟอร์มาลีน โซดาไฟ และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โดยพบหลักฐานเป็นใบเสร็จจากการส่งจำหน่ายร้านหมูกระทะและร้านอาหารอีสานในจังหวัดชลบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงถึง 66 แห่ง จากนั้นได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจท้องที่เพื่อดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า กรมปศุสัตว์ยังคงตรวจสอบและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสัตว์มีชีวิต รวมถึงชิ้นส่วนเนื้อและเครื่องในสัตว์อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่โรคระบาดสัตว์ที่สำคัญเช่นโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASF) โรคปากและเท้าเปื่อย (FMD) เป็นต้น ตลอดจนเพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคด้วย ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
หากประชาชนต้องการแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลเพิ่มเติม สามารถแจ้งได้ที่แอปพลิเคชัน DLD 4.0 หรือสายด่วนกรมปศุสัตว์ 063-225-6888 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง