นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์การเกิดกาฬโรคแอฟริกาในม้า (African Horse Sickness) ในปี 2563 ประเทศไทยพบการระบาดครั้งแรกเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 โดยตรวจพบในพื้นที่ 17 จังหวัด มีจำนวนสัตว์ป่วยสะสม 610 ตัว และตายสะสม 568 ตัวกรมปศุสัตว์ได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายดำเนินการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกันโรคอย่างมีประสิทธิภาพ จนทำให้พบโรคครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563
สถานการณ์ปัจจุบัน ประเทศไทยไม่มีรายงานพบกาฬโรคแอฟริกาในม้ามากกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งขณะนี้เป็นการดำเนินงานในระยะที่ 3 เป็นระยะขอคืนสถานภาพปลอดโรคตามแผนปฏิบัติการกำจัดกาฬโรคแอฟริกาในม้า เพื่อคืนสถานภาพปลอดโรค จากองค์การสุขภาพสัตว์โลกของประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายที่จะดำเนินการให้ได้สถานภาพปลอดโรคภายในปี พ.ศ.2566
จากสถานการณ์ของโรคที่ดีขึ้นมากกรมปศุสัตว์ กรมการสัตว์ทหารบก องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย และทุกหน่วยงานภาคีภายใต้บันทึกความร่วมมือ (MOU) การกำจัดกาฬโรคแอฟริกาในม้าของประเทศไทย ได้จัดทำข้อมูลสำหรับขอรับรองการปลอดโรคจากองค์การสุขภาพสัตว์โลกเรียบร้อยแล้ว
และได้ยื่นเรื่องขอคืนสถานภาพปลอดโรค AHS อย่างเป็นทางการต่อองค์การสุขภาพสัตว์โลก (WOAH) เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2566 ซึ่งทางคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ทางด้านโรคสัตว์(Scientific committee) ของ WOAH จะดำเนินการตรวจสอบเอกสารให้เสร็จสิ้นภายในกลางปี พ.ศ. 2566 หากผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการฯ ดังกล่าว ประเทศไทยจะได้รับสถานะปลอดกาฬโรคแอฟริกาในม้าอย่างเป็นทางการจาก WOAH ในปี พ.ศ. 2566 ซึ่งองค์การสุขภาพสัตว์โลกจะเวียนแจ้งประเทศที่เป็นสมาชิกของ WOAH ทั่วโลกต่อไป
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อประเทศไทยปลอดโรคAHS แล้ว จะส่งผลให้ประเทศไทยสามารถจัดการแข่งขันกีฬาขี่ม้าระดับนานาชาติรายการต่างๆ ได้กระตุ้นการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องทั้งระบบ และทำให้เศรษฐกิจของประเทศโดยรวมดีขึ้นต่อไป รวมทั้งกิจการการนำเข้า ส่งออกสัตว์กลุ่ม Equids จะสามารถดำเนินการได้ตามปกติภายใต้ข้อกำหนดของกรมปศุสัตว์ อีกทั้งยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงระบบการควบคุมโรค และเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพของประเทศไทย