รองปลัดอุตฯเยี่ยมชม”วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง”สงขลา นำเศษไม้มาสร้างลังเลี้ยงผึ้งโพรง สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน

นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เยี่ยมชมการดำเนินงาน “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง” พร้อมด้วย นางสาวลัดดาวัลย์ สันติภิญโญเลิศ ผู้อำนวยการกองตรวจราชการ นายวุฒิชัย วงศ์หิรัญเดชา ผู้อำนวยการนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้และคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ อุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา โดยมี นายสว่างพงษ์ สุวรรณแท้ ผู้ก่อตั้ง “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง” ให้การต้อนรับ ณ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง หมู่ที่ 3 ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

สำหรับ “วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรง” ก่อตั้งกลุ่มเมื่อ พ.ศ. 2557 ภายใต้โครงการ ECO for Life ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งดำเนินการโดยความร่วมมือกัน ระหว่างการนิคมอุตสาหกรรม โรงงานอุตสาหกรรม และชุมชน ตามแนวคิดการเปลี่ยนวัสดุเหลือใช้ภายในโรงงานอุตสาหกรรมให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชน โดยการเปลี่ยนเศษไม้ภายในโรงงานสู่การสร้างเครื่องมือในการประกอบอาชีพ โดยการนำเศษไม้ดังกล่าวมาสร้างลังเลี้ยงผึ้งโพรง สามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อไม้เบญจพรรณเพื่อนำมาทำลังเลี้ยงผึ้ง และก่อให้เกิดอาชีพเสริมในการเลี้ยงผึ้งโพรง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลุ่มได้เติบโต มีรายได้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนและเป็นศูนย์เรียนรู้ที่สามารถส่งต่อความรู้ในการเลี้ยงผึ้งโพรงให้กับชุมชนข้างเคียง ซึ่งปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์จากรังผึ้งจำหน่าย อาทิ น้ำผึ้งแท้ สบู่น้ำผึ้ง แชมพูน้ำผึ้ง เป็นต้น

pic43
ลังเลี้ยงผึ้งโพรง

สำหรับ“ผู้เลี้ยงผึ้งโพรง”จะต้องหาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ซึ่งรวมทั้งนิสัยและพฤติกรรมต่าง ๆ ของผึ้ง

หลักสำคัญที่สุดการเลี้ยงผึ้งอยู่ที่การจัดการดูแลและการปฏิบัติภายในรังผึ้งให้ถูกต้องโดยจัดการปรับสภาพแวดล้อมภายในรังผึ้งให้เหมาะสมให้ผึ้งมีสุขภาพอนามัยดีและรังผึ้งมีประชากรที่มีคุณภาพ การจัดการภายในรังผึ้งนั้นมีเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ ที่จะนำไปใช้ให้เหมาะสมกับสภาพท้องที่ ซึ่งผู้เลี้ยงผึ้งโพรงโดยทั่วไปเมื่อได้นำผึ้งโพรงมาเลี้ยงแล้ว มักจะไม่มีการเคลื่อนย้ายรังผึ้งเหมือนผึ้งพันธุ์ ซึ่งการจัดการดูแล “ผึ้งโพรง” การคัดเลือกสถานที่หรือทำเลที่ตั้งรังผึ้ง ควรมีลักษณะดังนี้

– ต้องมีน้ำสะอาดและอาหารธรรมชาติเพียงพอ คือ ต้องอยู่ใกล้แหล่งน้ำ ควรแยกตัวรับผึ้งเป็นกลุ่ม ๆ ละประมาณ 30-50 รัง สถานที่เลี้ยงควรอยู่ใกล้ป่าตาล ป่าจาก สวนมะพร้าว หรือสวนผลไม้ สวนดอกไม้ใหญ่ ๆ หรือตามป่าที่มีดอกไม้มาก ๆ เช่น ป่าแสม ป่าโกงกาง เป็นต้น

-ที่ตั้งรังผึ้งต้องอยู่ในที่ร่มเย็นหรือใต้ร่มไม้ ไม่มีลมโกรก

-ห่างจากแหล่งชุมชน เพื่อป้องกันผึ้งต่อยผู้อื่น

-สถานที่ที่ไม่ควรตั้งรังผึ้ง คือบริเวณที่แห้งแล้ง เช่น ทุ่งนา บริเวณที่มีแสงไฟในเวลากลางคืน เพราะผึ้งจะบินมาเล่นไฟทำให้ผึ้งตาย

แหล่งอาหารผึ้ง

ผู้เลี้ยงผึ้งจะต้องทราบถึงแหล่งอาหารของผึ้งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของผึ้ง ได้แก่

เกสรดอกไม้ ซึ่งผึ้งจะไปเก็บเกสรจากดอกไม้ต่าง ๆ เช่น มะพร้าว ลำไย พืชตระกูลปาล์ม นุ่น เงาะ ข้าวโพด เป็นต้น เพื่อใช้เป็นอาหารโปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน ของผึ้ง

น้ำหวาน ผึ้งจะเก็บน้ำหวานจากต่อมน้ำหวานของพืชชนิดต่าง ๆ เช่น ดอกเสม็ด มะพร้าว กาแฟ ลำไย ทุเรียน เป็นต้น โดยผึ้งจะนำมาบ่มเป็นน้ำผึ้งซึ่งจะเป็นสารคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานแก่ผึ้ง

นอกจากนี้ผู้เลี้ยงผึ้งควรจัดน้ำสะอาดให้ผึ้งไว้บริโภค ถ้าในบริเวณใกล้เคียงไม่มีแหล่งน้ำในธรรมชาติ การจัดหาน้ำสะอาดให้ผึ้งมีน้ำบริโภคอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะผึ้งจะนำน้ำไปเจือจางน้ำผึ้งสำหรับไปเลี้ยงตัวอ่อน และช่วยในการละลายความร้อนภายในรังผึ้ง รวมทั้งรักษาความสมดุลและความชื้นภายในรวงรังในการช่วยให้ไข่ฟักออกเป็นตัวหนอน ผึ้งจะชอบน้ำอุ่นเล็กน้อย การจัดน้ำสะอาด ๆ ให้ผึ้งโดยการใส่น้ำสะอาดลงไปในภาชนะ แล้วใส่ก้อนหินลงไปตามความเหมาะสมเพื่อใช้เป็นที่เกาะของผึ้งขณะมากินน้ำแต่ต้องคอยเติมน้ำเรื่อย ๆ อย่าให้น้ำขาดโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน