“ดุสิตโพล” สำรวจกรณี”ปลดล็อกกัญชา” ส่วนใหญ่ห่วง มี”ผลเสีย”มากกว่า”ผลดี”

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ในประเด็น คนไทยกับ “กัญชาเสรี” พบหลังจากมีการปลดล็อกกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ประชาชนส่วนใหญ่ ”มีความวิตกกังวล” โดยมองว่าการ ”ปลดล็อกกัญชามีผลเสียมากกว่าผลดี”

“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “คนไทยกับกัญชาเสรี” หลังจากมีการปลดล็อกกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา มีข่าวการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ รวมไปถึงผลข้างเคียงจากการใช้กัญชาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน ที่ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงอันตราย

โดยเมื่อถามว่า หลังจากมีการปลดล็อกกัญชาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.65 ประชาชนรู้สึกวิตกกังวลมากน้อยเพียงใด พบว่า อันดับ 1 ตอบว่า ค่อนข้างวิตกกังวล 37.78% อันดับ 2 วิตกกังวลมาก 32.85% อันดับ 3 ไม่ค่อยวิตกกังวล 16.27% อันดับ 4 ไม่วิตกกังวล 13.10%

เมื่อถามประชาชนว่าการปลดล็อกกัญชา ณ วันนี้ คิดว่ามีผลดีหรือผลเสียมากกว่ากัน อันดับ 1 ตอบว่า มีผลเสียมากกว่า 52.76% อันดับ 2 ผลดีและผลเสียพอ ๆ กัน 30.17% และอันดับ 3 มีผลดีมากกว่า 17.07%

ส่วน “ผลดี” ของการปลดล็อกกัญชา พบว่า อันดับ 1 ตอบว่า ใช้ประโยชน์ในการรักษาทางการแพทย์อันดับ 2 สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และอันดับ 3 ตอบว่า ช่วยลดรายจ่ายด้านยารักษาโรคบางประเภท

ส่วน “ความกังวล” ที่มีต่อการปลดล็อกกัญชา พบว่า อันดับ 1 ตอบว่า ประชาชนขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ที่เหมาะสม อันดับ 2 เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย อยากรู้อยากลอง อันดับ 3 การไม่มีแนวทางปฏิบัติ/กฎหมายลูกรองรับที่ชัดเจน

D2B30A12 3AAA 4FE4 B1C6 831086AC9C89

เมื่อถามประชาชนคิดว่าควรดำเนินการอย่างไรกับ “กัญชาเสรี” ณ วันนี้ 

อันดับ 1 ตอบว่า จำกัดการใช้โดยเฉพาะเยาวชน สถานศึกษาควรเป็นแหล่งปลอดกัญชา 

อันดับ 2 ตอบว่า มีมาตรการเฝ้าระวัง ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะการใช้ในอาหาร 

และอันดับ 3 ตอบว่า ควบคุมการโฆษณาเกินจริง มีเครื่องหมายหรือข้อความเตือนอย่างชัดเจน

เมื่อประชาชนคิดว่าการปลดล็อกกัญชาเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “การเมือง” หรือไม่ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 60.54% ตอบว่า เกี่ยวข้องแน่นอน อันดับสอง 27.99% ตอบว่า น่าจะเกี่ยวข้อง อันดับสาม 9.53% ตอบว่า ไม่น่าจะเกี่ยวข้อง และอันดับสี่ 1.94% ตอบว่า ไม่เกี่ยวข้องแน่นอน

โดยผลสำรวจครั้งนี้ มาจากความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,390 คน (สำรวจทางออนไลน์) ดำเนินการสำรวจ ระหว่างวันที่ 20-23 มิถุนายน 2565