พาณิชย์ คาดแรงหนุนปรับ B5 เป็น B7 ช่วยดันราคาผลปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น

กรมการค้าภายใน ประเมินความต้องการใช้พลังงานทดแทนกลุ่มไบโอดีเซลที่เพิ่มสูงขึ้น และการปรับสัดส่วนผสมน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B7 ดีเดย์ 10 ต.ค.-31 ธ.ค.นี้ จะช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบ คาดช่วยพยุงราคาผลปาล์มที่เกษตรขายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ล่าสุดราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดล่วงหน้ามาเลเซียเริ่มขยับขึ้นแล้วพร้อมแนะเกษตรกรตัดปาล์มสุก เพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่สูงขึ้น ราคาขายดีขึ้น

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม ภายใต้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดโลกเริ่มมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2-3วันที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการใช้ด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นหลังกิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับภูมิภาคตะวันตกเริ่มเข้าฤดูหนาว รวมถึงกลุ่มโอเปคมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลง ส่งผลให้ความต้องการพลังงานทดแทนในกลุ่มไบโอดีเซลปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ราคาผลปาล์มดิบยังได้แรงหนุนจากมติคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2565 ที่อนุมัติการปรับเพิ่มสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก B5 เป็น B7 ตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค-31 ธ.ค.2565 โดยคาดว่าจะช่วยดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบออกจากระบบได้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ตันต่อเดือน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มของเกษตรกรขาวสวนปาล์ม

“ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบตลาดล่วงหน้าของมาเลเซีย ณ เดือน พ.ย.2565 อยู่ที่ 3,604 ริงกิตต่อตัน หรือ 29.46 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนต.ค.2565 ที่ 3,532 ริงกิตต่อตัน หรือ 28.87 บาท/กก. สอดคล้องกับราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศที่ปรับสูงขึ้น ทำให้ราคาผลปาล์มขณะนี้มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น และอัตราค่าเงินบาทขณะนี้ ยังถือเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาผลปาล์มของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม”

310106286 671955004497043 6922477297166265759 n
คาดปรับ B5 เป็น B7 ดันราคาปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้น

อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ ที่มีผู้แทนจากทุกภาคส่วนจะได้ติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณาแนวทางและข้อเสนอการบริหารจัดการที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอย่างดีที่สุดภายใต้หลักการวิน-วิน โมเดล แต่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่มีผลต่อราคาที่เกษตรกรจะได้รับ คือ คุณภาพของทะลายปาล์มน้ำมัน จึงขอรณรงค์ให้เกษตรกรตัดปาล์มสุกเพื่อให้ได้เปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและเป็นผลดีต่อราคาที่เกษตรกรได้รับด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมัน ราคาปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอยู่ที่กิโลกรัมละ 4 บาทกว่าเท่านั้น ทั้งที่ 3-4 เดือนก่อนหน้านี้ ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 บาท และสูงถึงกิโลกรัมละ 12 บาท แต่เนื่องจากปุ๋ยมีราคาแพง ถึงกระสอบละ 1,800-2,000 บาททำให้เกษตรกรไม่ได้ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น ทำให้ต้นปาล์มน้ำมันให้ผลผลิตน้อย และไม่ได้น้ำหนักตามที่ต้องการ

ในส่วนของชาวสวนปาล์มน้ำมันได้เรียกร้องภาครัฐแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำและราคาปุ๋ยที่แพงขึ้นกว่า 120-130% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตปาล์มสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 6 บาท แต่ขายได้กิโลกรัมละ 4 บาทกว่าเท่านั้น ถือว่าราคาปาล์มตกต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี