อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ลงพื้นที่ภาคใต้คุมเข้มคุณภาพ มาตรฐานทุเรียน-ลำไย ส่งออกจีน

อธิบดีกรมวิชาการเกษตรลงใต้คุมเข้มคุณภาพมาตรฐาน ทุเรียน-ลำไย ส่งออกจีน รุดจัดทีมเฉพาะกิจสวพ.1-8 พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพืชสวนและศูนย์วิจัยพืชไร่ เร่งออกบริการคลีนิคเกษตรเคลื่อนที่ขึ้นทะเบียน ต่ออายุ และปรับปรุงรหัส GAP ทั่วประเทศ

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สั่งการให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย ผอ.กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช  ผอ.สถาบันวิจัยพืชสวน และ ผอ.สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร ลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อคุมเข้มคุณภาพมาตรฐานทุเรียนส่งออกจีน   

พร้อมกับสั่งเดินหน้าปรับรหัสสวน GAP รูปแบบใหม่ เพื่อให้ทันการขึ้นทะเบียนส่งออกไปยังประเทศจีนรอบต่อไป ป้องกันการสวมสิทธิ์  รวมทั้งเตือนผู้ประกอบการ และโรงคัดบรรจุรายใดส่งทุเรียนด้อยคุณภาพ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์และเศรษฐกิจ และผิดเงื่อนไขตามพิธีสารส่งออกผลไม้ไทยจีนถือเป็นความผิดทางอาญา

DF8A1AF9 8613 4370 993E DE5753BE42EF

ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรจะจัดทีมเฉพาะกิจอำนวยความสะดวก เร่งออกบริการคลีนิคเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อรับขึ้นทะเบียน ต่ออายุ และปรับปรุงรหัส GAP ทั่วประเทศ  โดยระดมทีมงานจาก สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 1- 8 (สวพ. 1-8) และ กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช (กมพ.)  รวมถึง ศูนย์วิจัยพืชสวน และศูนย์วิจัยพืชไร่ในเขตพื้นที่นั้นๆ ปูพรมทำงานตามแผนปฏิบัติงานที่ผู้บริหารกรมวิชาการเกษตรได้ประชุมร่วมกันเมื่อเดือนกันยายน ณ จังหวัดเชียงใหม่

ในวันที่ 31 ตุลาคม 2565 อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ได้ลงพื้นที่ประชุมหารือกับนายวีรวัฒน์ จิรวงส์ นายกสมาคมสวนไม้ผลจังหวัดชุมพร และกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ หรือ Fruit Board นายวิโรจน์ แสงบางกา ที่ปรึกษาสมาคมสวนผลไม้จังหวัดชุมพร และตัวแทนพี่น้องเกษตรกร  รวมถึง ตัวแทนผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ เพื่อเตรียมความพร้อมต่างๆ สำหรับการส่งออกทุเรียนใต้สู่ประเทศจีน พร้อมมอบใบรับรอง GAP ที่ปรับปรุงรหัสใหม่ให้กับกลุ่มเกษตรกร ที่เข้าร่วมประชุม

E2E49149 D04B 48CC BB5E 6C3D54092D30

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ยังกล่าวว่า ได้สั่งการให้ สวพ.เขต 7 เร่งออกใบรับรอง GAP รูปแบบใหม่ และการขึ้นทะเบียน GAP ให้กับเกษตรกรรายใหม่ เพื่อให้ทันฤดูกาลส่งออกทุเรียนภาคใต้  โดยอำนวยความสะดวกในการบริการคลีนิคเกษตรเคลื่อนที่ เพื่อรับขึ้นทะเบียน ต่ออายุ และปรับปรุงรหัส GAP ในพื้นที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี อาทิ อำเภอ ท่าแซะ ประทิว สวี  หลังสวน  ทุ่งตะโกท่าศาลา นบพิตำ พนม  คีรีรัฐนิคม บ้านนาสาร เป็นต้น

สำหรับอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญในการลงพื้นที่ครั้งนี้ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุ ตระหนักถึงการปฏิบัติตามเงื่อนไขคัดบรรจุทุเรียนสดที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อการส่งออกไปตลาดจีน ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดชุมพร มีจำนวน 353 โรงคัดบรรจุ ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ กรมวิชาการเกษตรของไทย และสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแล้ว  พร้อมกับได้บูรณาการเข้มข้นกับผู้ว่าราชการจังหวัดและฝ่ายปกครอง เพื่อป้องกันการลักลอบตัดทุเรียนอ่อน และทุเรียนด้อยคุณภาพ รวมถึง ป้องกันการสวมสิทธิ์ทุเรียนด้วย

9A3A55D1 039F 4596 9571 30648957D7AA
FED05B81 79FD 4926 BDFC F57BAE8101E6
B72A219E 79B3 421F 8900 D8B8DFDB8A40
392E8F95 D2A1 4E2A B0CC 65066DEBFCF4
FC393256 881E 4AC2 B8E1 11C17486F838