ปลัดอุตสาหกรรม สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดเร่งช่วยซ่อมแซมเครื่องจักรโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มภาคใต้ ให้พร้อมเดินเครื่องสกัดน้ำมันปาล์มเต็มสูบภายในจันทร์นี้

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย น.ส.ณัฏฐิญา เนตยสุภา รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และตรัง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อสรุปประเด็นปัญหาและหาแนวทางแก้ไข จากกรณีการนำเสนอภาพข่าวปาล์มน้ำมันล้นโรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม และลานเทหลายรายหยุดรับซื้อผลผลิตชั่วคราวทำให้ผลผลิตตกค้างหน้าโรงงานเป็นจำนวนมาก

thumbnail f78198855fa68ffb85a2d88a7a139d69
ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ ปลัดฯ ได้สั่งการให้อุตสาหกรรมจังหวัดที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเข้าสำรวจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มเพื่อหาสาเหตุของปัญหาในกระบวนการผลิตและเครื่องจักรชำรุดเสียหาย พร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือโรงงานที่มีปัญหาในด้านการบำรุงรักษาเครื่องจักร โดยหากพบว่าเครื่องจักรชำรุดหรือทำงานได้ไม่เต็มกำลังการผลิต ขอให้เข้าดำเนินการช่วยเหลือซ่อมแซมเครื่องจักรเป็นการด่วน เพื่อให้สามารถกลับมาดำเนินการผลิตได้เต็มกำลัง ภายในวันจันทร์ที่ 16 มกราคมนี้

อย่างไรก็ตาม หากพบโรงงานที่ไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ ให้รายงานสาเหตุอย่างละเอียด พร้อมทั้งผลการสำรวจโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มทุกโรงงานในพื้นที่ความรับผิดชอบ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาและกำหนดแนวทางการดำเนินการโดยด่วนต่อไป

ทั้งนี้สืบเนื่องจาก มีข่าวว่าลานเทรับซื้อปาล์มน้ำมันหลายจังหวัดทางภาคใต้ งดรับซื้อผลปาล์มน้ำมันจากเกษตรกร เช่นเดียวกับโรงงานก็ยังงดรับซื้อเช่นกัน ทำให้ที่จุดรับซื้อบางแห่ง ซึ่งยังเปิดรับซื้ออยู่นั้นได้มีรถบรรทุกผลปาล์มน้ำมัน ต้องเข้าคิวจอดรอขายอยู่หน้าโรงงานนับร้อยคัน แต่ราคาจะตกต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรือแตกต่างจากราคารับซื้อของโรงงาน เพราะต้องซื้อในราคาที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากผลปาล์มน้ำมันค้างไว้ในลานเทนานเกินไป อาจทำให้น้ำหนักหายไป และผลผลิตอาจจะเน่าเสียหาย หรือคุณภาพลดต่ำลง ทำให้ต้องซื้อในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง โดยขณะนี้ลานรับซื้อทั่วไปเหลือประมาณกิโลกรัมละ 3.40-3.50 บาท ในขณะที่โรงงานรับซื้อกิโกรัมละ 4.60-4.70 บาท โดยปัญหาลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นประจำในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว เพราะโรงงานหยุดซ่อมเครื่องจักร จึงทำให้การเดินเครื่องผลิตทำได้ไม่เต็มที่ และเกษตรกรก็แห่กันเก็บผลผลิต จึงทำให้เกิดปัญหาล้นโรงงาน และส่งผลกระทบกับเกษตรกรดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ราคาปาล์มน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปี 66 มีแนวโน้มปรับตัวลดลงเนื่องจากปริมาณผลผลิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาปาล์มน้ำมันของไทยปรับลดตามไปด้วยแถมการส่งออกมีแนวโน้มลดลงทำให้สต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศเพิ่มสูงคาดปี 66 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.12 บาท ลดลงจากปี 65 ซึ่งอยู่ที่ 7.70 บาทต่อกิโลกรัม

ปัจจัยที่ทำให้ราคาน้ำมันปาล์มของตลาดโลกมีแนวโน้มลดลงในปี 2566 เนื่องจากในปี 2564/65 มีผลผลิตน้ำมันปาล์ม 75.93 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 73.08 ล้านต้น ในปี 2563/2564 ร้อยละ 3.90 แหล่งผลิตปาล์มน้ำมันที่สำคัญของโลกได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย มีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยฝนตกอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ของมาเลเซียเริ่มคลี่คลาย