“ตานีสยาม”กระเป๋าแปรรูปจากต้นกล้วย สู่สินค้าไลฟ์สไตล์รักษ์โลก สุดฮอต

วันนี้กระทรวงพาณิชย์ ขอแนะนำสินค้ารายการใหม่ ที่เป็นกลุ่ม BCG หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ที่โดดเด่นของจังหวัดราชบุรี คือ แบรนด์ “ตานีสยาม” สินค้าแฟชั่นแปรรูปจากต้นกล้วย ที่ถูกนำไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น กระเป๋าสตางค์ กระเป๋าถือ ถุงหิ้ว หมวก ผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ เช่น เคสมือถือ ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับหนังในอุตสาหกรรม 

o 1goi7ep7rngjqhk13sjikro2io
“ตานีสยาม”กระเป๋าแปรรูปจากต้นกล้วย

สินค้าแบรนด์ “ตานีสยาม” เกิดขึ้นโดยนายธนกร สดใส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ ที่ต้องการนำวัสดุจากธรรมชาติ โดยเฉพาะกล้วยตานีที่ปลูกกันมากในชุมชนและผูกพันกับวิถีชีวิตชาวบ้านในจังหวัดราชบุรีมาอย่างยาวนาน มาต่อยอดผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ที่มีความร่วมสมัย และสามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยเห็นว่ากล้วยตานีมีคุณสมบัติที่โดดเด่น คือ มีความเหนียว สวยงาม เงางาม และมีลวดลายเฉพาะ เมื่อนำมาต่อยอดกับความรู้ด้านเคมีสิ่งทอ จึงเกิดเป็นหนังกาบกล้วยที่นำมาใช้แทนหนังได้ และมีอายุการใช้งานได้นาน

o 1goi7ep7r177f63m1mvq5nnisqp
“ตานีสยาม”กระเป๋าแปรรูปจากต้นกล้วย

การนำกล้วยตานี มาพัฒนาเป็นหนังกาบกล้วย เป็นถือเป็นตัวอย่างของสินค้า BCG ที่ให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เพราะกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้มีส่วนช่วยปกป้องและรักษาสิ่งแวดล้อม โดยผลผลิตที่ได้จากกล้วยตานี ใบสามารถใช้ทำบายศรี จาน ก้าน นำมาใช้จักสานเป็นบรรจุภัณฑ์ ต้นนำมาทำเป็นหนังกาบกล้วย เชื่อกล้วย งานจักสาน ส่วนยาง ก็นำไปสกัดเป็นสีเพนต์ สีย้อมได้ ซึ่งเห็นได้ว่า ล้วนแต่เป็นสินค้าที่เป็น BCG และตรงตามที่ตลาดต้องการในปัจจุบัน

o 1goi7ep7rt3i1cunmd2hjs1v0ft
“ตานีสยาม”กระเป๋าแปรรูปจากต้นกล้วย

สำหรับจุดเด่นของสินค้า พูดได้ว่า เป็นชิ้นเดียวในโลก อย่างกระเป๋า ลวดลายแต่ละใบจะไม่เหมือนกัน เพราะลวดลายเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และยังมีความเป็นอัตลักษณ์ คือ มีการใช้เทคนิคการพับ จับ และจีบ มาใช้ในการผลิตกระเป๋า ซึ่งถือเป็นจุดเด่นอีกตัวหนึ่ง

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มีแผนที่จะเข้าไปช่วยพัฒนาสินค้าให้ตรงตามที่ตลาดต้องการ ช่วยเพิ่มช่องทางการตลาด ทั้งในและต่างประเทศ และยังจะเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า การเข้าร่วมเวทีการเจรจาจับคู่ธุรกิจทั้งออฟไลน์และออนไลน์ และการผลักดันให้นำสินค้าจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการขายให้กับผู้ประกอบการ และช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเศรษฐกิจในระดับฐานราก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเทศไทยมีการปลูกกล้วยกันมาช้านาน กล้วยที่ปลูกก็มีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกล้วน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหอม เป็นต้น อีกหนึ่งชนิดที่สำคัญคือ กล้วยตานี กล้วยตานีเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดมาจากแคว้นอัสสัมในประเทศอินเดียและแพร่กระจายไปทั่ว

สำหรับในประเทศไทยสามารถปลูกและพบเห็นได้ทุกภูมิภาคแต่จะปลูกมากที่สุดในจังหวัดสุโขทัย ผู้คนนิยมปลูกเพื่อนำมารับประทาน โดยกล้วยตานีนั้นถือว่าเป็นพืชที่ใช้ประโยชน์ได้ทั้งต้น โดยส่วนปลีและหยวกสามารถนำไปปรุงอาหารได้ เช่น นำไปใส่แกงหรือหมกใส่ไก่ได้ หรือจะกินสดโดยใส่กับผัดไทยก็สามารถทำได้ ผลอ่อนที่เมล็ดยังไม่แข็งมากสามารถนำมาตำทำเป็นตำกล้วยได้ และใบตองจากกล้วยตานีเป็นใบตองที่มีคุณภาพมากที่สุดหากเทียบกับกล้วยชนิดอื่น เนื่องจากใบตองจากกล้วยตานีมีลักษณะใบที่กว้าง เหนียว สีเขียวสด ไม่เหี่ยวหรือแตกง่าย เงางาม สามารถเก็บไว้ได้นาน เป็นวัสดุที่ย่อยสลายง่ายไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงนิยมนำมาใช้สำหรับห่ออาหาร ใช้ตกแต่งภาชนะใส่อาหาร ทำกระทง บายสีในงานมงคล หรือบุญประเพณีต่าง ๆ และถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ดี

ใบตองจากกล้วยตานีมีนิยมนำมาใช้สำหรับห่ออาหาร ใช้ตกแต่งภาชนะใส่อาหาร ทำกระทง บายสีในงานมงคล หรือบุญประเพณีต่าง ๆ ได้

ปัจจุบันมีเกษตรกรหันมาปลูกต้นกล้วยตานีเพื่อจำหน่ายใบตอง สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้จำนวนมาก นอกจากนี้ต้นกล้วยตานียังสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ ได้อีก เช่น ก้านใบ สามารถนำไปทำกระดาษเชือก หยวก ปลี ผลอ่อนรับประทานเป็นผัก ปลี ใช้ทำอาหาร เหง้าใช้ทำแกงคั่ว ผลอ่อน ใช้ทำส้มตำใช้ทำเมี่ยง ผลแก่ใช้รับประทานเป็นผลไม้ และยังมีสรรพคุณอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นถ้าหากนำใบที่แห้งแล้วนำไปต้มกับใบมะขาม สามารถนำน้ำมาอาบเพื่อแก้ผดผื่นคันตามตัวได้ ช่วยแก้ท้องเสียโดยการนำผลดิบที่ยังอ่อนอยู่ นำมาฝานแล้วตากแดดไว้หลังจากนั้นนำมาบดแล้วรับประทานจะช่วยแก้ท้องเสียได้ ช่วยแก้ร้อนใน ดับกระหายโดยการนำรากมาต้มน้ำรับประทาน ช่วยกันผมร่วงและเร่งให้ผมเจริญเติบโตเร็วขึ้น โดยนำลำต้นมาคั้นน้ำแล้วนำมาทากับผมตรงที่เราต้องการ ช่วยบรรเทาอาการเคล็ดขัดยอกโดยการนำใบกล้วยที่อ่อน นำมาอังไฟแล้วนำมาทาบริเวณที่เคล็ดขัดยอกจะช่วยบรรเทาได้ ส่วนหัวปลีนั้นสามารถใช้บำรุงน้ำนมได้ดี โดยวิธีการคือนำหัวปลีไปต้มแล้วคั้นสด รับประทานจะช่วยบำรุงน้ำนมแม่ได้ หัวปลีก็ยังสามารถรักษาโลหิตจางได้เพราะหัวปลีมีธาตุเหล็กอยู่มาก วิธีการทำโดยการนำหัวปลีไปตากแห้งแล้วรับประทาน