กรมการค้าภายใน ชี้ ผลผลิตราคาพืชไร่ ยางพารา ปรับตัวดีขึ้น พร้อมเพิ่มมาตรการบริหารจัดการผลไม้ใหม่เอาใจผู้บริโภค

.

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงราคาพืชไร่ ทั้งข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมันและยางพารา ว่า มีการปรับตัวดีขึ้นจากช่วงก่อนหน้า เช่นเดียวกับภาพรวมมีการปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่น ข้าวหอมมะลิ เฉลี่ยถึง 14,400 – 14,800 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 13,500-14,000 บาท/ตัน ข้าวหอมปทุมธานี 10,500-11,500 บาท/ตัน ข้าวเจ้า 9,700 – 10,100 บาท/ตัน และข้าวเหนียว 11,500-12,400 บาท/ตัน ส่วนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน อยู่ที่ 11 บาท 60 สตางค์ – 11 บาท 70 สตางค์/กิโลกรัม และ 5.30 บาท/กิโลกรัม ตามลำดับ

.

%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2 4
ข้าว

ขณะที่ผักมีการปรับราคาขึ้น-ลงตามกลไกตลาด รวมถึงเนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ ราคาปรับลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ 5 ราคาหมูเนื้อแดง ไม่เกินกิโลกรัมละ 190 บาท / เนื้อไก่ ติดสะโพก 49-69 บาทต่อกิโลกรัม และไข่ไก่ อยู่ที่ฟองละ 3 บาท 60 สตางค์

.

%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%A1
ปาล์มน้ำมัน

สำหรับผลไม้ ที่กำลังทยอยออกสู่ตลาดหลายชนิด ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปีการผลิต 2566 ไว้รองรับแล้ว รวม 17 มาตรการเดิม และเพิ่มอีก 5 มาตรการใหม่ เพื่อเพิ่มศักยภาพการบริการจัดการผลไม้ โดยทุเรียนไทยยังคงเป็นที่ต้องการ ซึ่งเชื่อว่าลักษณะทางกายภาพ สีเหลืองสวยและรสชาติหวานหอมของทุเรียนไทย ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวจีนได้อยู่

%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%94 7 1
ข้าวโพด

อธิบดีกรมการค้าภายใน ยังกล่าวอีกว่า กรมการค้าภายในจะนำ อมก๋อย โมเดล ซึ่งเป็นมาตรการที่ประสบความสำเร็จในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามาใช้ โดยจะเข้าไปเชื่อมโยงให้ผู้ซื้อ ทั้งผู้ประกอบการ ห้าง ผู้ผลิต มาเจอกับเกษตรกร และตกลงซื้อขาย มีเป้าหมายที่ 1 แสนตัน จะช่วยกระจายผลผลิตผลไม้ออกนอกแหล่งผลิต เป้าหมาย 9 หมื่นตัน โดยช่วยเหลือผู้ประกอบการหรือเกษตรกรกิโลกรัม (กก.) ละ 3 บาท และสนับสนุนให้รถเร่ รถโมบาย ไปรับซื้อผลไม้และนำออกจำหน่ายสู่ผู้บริโภคโดยตรงในช่วงที่ผลไม้ออกมาก เป้าหมาย 3 หมื่นตัน

%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%87
ยางพารา

นอกจากนี้ กรมฯ จะประสานงานกับห้าง ร้านสะดวกซื้อและปั๊มน้ำมันต่าง ๆ เปิดพื้นที่ระบายผลไม้ให้แก่เกษตรกร เป้าหมาย 1 แสนตัน และจัดรณรงค์บริโภคผลไม้ไทย งาน Fruit Festival ในแหล่งท่องเที่ยว และสนับสนุนการโหลดผลไม้ขึ้นเครื่องบิน ฟรี 20 กก. ปริมาณรวม 4.2 หมื่นตัน

ขณะเดียวกันจะช่วยสนับสนุนกล่อง พร้อมค่าจัดส่งผลไม้ที่ขายตรงจากเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ ไปยังผู้บริโภค ผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งปีที่แล้วแจกทั้งสิ้น 3 แสนกล่อง ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ปีนี้ตั้งเป้าไว้เท่าเดิม 3 แสนกล่อง และยังจะเข้าไปอบรมให้ความรู้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ในเรื่องการค้าออนไลน์ เพื่อขายตรงให้แก้ผู้บริโภค รวมถึงหลักสูตรการส่งออกเบื้องต้น ตั้งเป้าอย่างน้อย 2,500 ราย

ส่วนมาตรการที่เคยเป็นมาตรการเสริม ปีนี้จะใช้เป็นมาตรการหลัก คือ การส่งเสริมการแปรรูป ช่วยค่าบริหารจัดการแปรรูปลำไยอบแห้ง และทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งปีที่แล้วช่วยได้มาก ช่วงผลผลิตลำไยออก แต่ตลาดจีนและเวียดนามชะลอตัว ก็นำไปอบแห้งเก็บ และดึงปั๊มน้ำมันซื้อไปแจกให้ผู้เติมน้ำมัน และทุเรียน ก็นำไปแปรรูปแช่แข็ง แล้วนำไปจำหน่ายผ่านตู้แช่ที่สถานีรถไฟฟ้า แก้ทั้งปัญหาทุเรียนล้นตลาด และช่วยให้ผู้บริโภคได้บริโภคทุเรียนคุณภาพ และจะดึงนิคมอุตสาหกรรม 60 แห่ง 3 หมื่นโรงงาน เปิดพรีออเดอร์ผลไม้ ตั้งเป้า 1.5 หมื่นตัน ซึ่งปีที่แล้ว ประสบผลสำเร็จด้วยดี

สำหรับมาตรการอื่น ๆ กรมฯ จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการ เช่น การเชื่อมโยงผลไม้โดยเซลส์แมนจังหวัด และเซลส์แมนประเทศ ในการระบายผลไม้ทั้งในและต่างประเทศ การช่วยสภาพคล่องผู้ส่งออก ช่วยดอกเบี้ย 3% และช่วยส่งออกกก.ละ 4 บาท เป้าหมาย 1 แสนตัน การเข้าร่วมในคณะทำงานผลักดันการส่งออกผลไม้ ที่จะมีวอร์รูมภาครัฐและเอกชนติดตามสถานการณ์และแก้ไขปัญหาส่งออกผลไม้ และการบังคับใช้กฎหมาย เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ และพ.ร.บ.ชั่งตวงวัด