พาณิชย์เตรียมใช้ “อมก๋อย โมเดล” นำผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ห้าง ซื้อมะม่วงในราคานำตลาดเพื่อดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้คุ้มต้นทุนและมีรายได้เพิ่มขึ้น

กรมการค้าภายในเตรียมใช้ “อมก๋อย โมเดล” ดูแลมะม่วงที่กำลังออกสู่ตลาด ตั้งแต่กลางเดือนเม.ย.นี้เป็นต้นไป เตรียมนำผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ห้าง เข้าไปรับซื้อในราคานำตลาด นำร่องแล้วที่พิษณุโลก พิจิตร คาดปีนี้ผลผลิตรวม 1.34 ล้านตัน เพิ่ม 4% มั่นใจดูแลเกษตรกรขายผลผลิตได้คุ้มต้นทุนและมีรายได้เพิ่มขึ้น

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมโครงการ “อมก๋อย โมเดล” ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุกปี 2566 จำนวน 22 มาตรการ มาใช้ในการดูแลมะม่วงที่กำลังจะออกสู่ตลาด ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย.2566 เป็นต้นไป คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตรวม 1.34 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4% แบ่งเป็นมะม่วงภาคเหนือสัดส่วน 50% ภาคกลาง 35% และภาคตะวันออก 15% โดยจะนำผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ห้างค้าส่งค้าปลีก เข้าไปรับซื้อผลผลิตมะม่วงจากเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร ในราคานำตลาด เพื่อดูแลเกษตรกรให้ขายผลผลิตได้คุ้มต้นทุนและมีรายได้เพิ่มขึ้น

king mango 214269 960 720
ใช้”อมก๋อย โมเดล” ดูแลมะม่วงออกสู่ตลาด

“ที่ผ่านมา กรมฯ ได้เริ่มนำร่องนำผู้ประกอบการจำนวน 12 ราย เข้าไปรับซื้อมะม่วงแล้ว โดยซื้อจากเกษตรกร 10 กลุ่ม 7 อำเภอ 2 จังหวัด คือ พิษณุโลกกับพิจิตร โดยซื้อในราคานำตลาดปริมาณกว่า 16,000 ตัน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้ราคาขยับขึ้น แต่ยังช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย และจากนี้ กรมฯ จะใช้อมก๋อย โมเดล นำผู้ประกอบการ เข้าไปรับซื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรว่าจะมีที่ขายผลผลิต”นายกรนิจกล่าว

สำหรับสถานการณ์ราคามะม่วงในขณะนี้ ซึ่งเป็นมะม่วงช่วงต้นฤดู พบว่า มะม่วงฟ้าลั่น ราคากิโลกรัม (กก.) ละ 20 บาท มะม่วงน้ำดอกไม้ กก.ละ 40 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยปี 2565 ที่ผ่านมา มะม่วงน้ำดอกไม้ กก.ละ 20 บาท ปี 2563-64 เฉลี่ย กก.ละ 13 บาท

นายกรนิจ กล่าวว่า ผลผลิตผลไม้ในภาพรวมปี 2566 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ประเมินว่าจะมีปริมาณรวม 6.78 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% โดยทุเรียน เพิ่ม 18% มังคุด เพิ่ม 30% ลำไย เพิ่ม 1% เงาะ เพิ่ม 7% ลิ้นจี่ เพิ่ม 10% มะม่วง เพิ่ม 4% สับปะรด เพิ่ม 5% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมตลาดล่วงหน้ารองรับผลไม้ไว้แล้วกว่า 700,000 ตัน ภายใต้ 22 มาตรการ ใน 4 ด้าน ได้แก่ การผลิต การตลาดในประเทศ ต่างประเทศ และด้านกฎหมาย และตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกผลไม้สดและแปรรูป 4.44 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10%
         

ทั้งนี้ ผลไม้ภาคตะวันออก กำลังจะเริ่มออกสู่ตลาด โดยทุเรียน ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะมีตลาดรองรับ มังคุด เงาะ ลองกอง ลำไย ผลผลิตลดลง โดยเฉพาะมังคุด ลดลงมาก ราคาน่าจะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนมังคุดภาคใต้ ปีนี้ผลผลิตเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังน้อยกว่าปีปกติ คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาเช่นเดียวกัน และราคาน่าจะอยู่ในเกณฑ์ดี
         

อย่างไรก็ตาม ในการบริหารจัดการผลไม้ปีนี้ ได้มีการตั้งคณะทำงานผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย ภาครัฐร่วมกับเอกชน ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นวอร์รูม เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิต การตลาด และประสานงานแก้ไขปัญหาการจำหน่าย การส่งออกผลไม้ โดยเฉพาะการผลักดันส่งออกไป 3 ตลาดศักยภาพ ได้แก่ ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ และ CLMV