เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรือ HaiFengBoDuo บรรทุกทุเรียนและมังคุดจากประเทศไทย จำนวนรวม 5 ตู้ ได้เข้าเทียบท่าเรือชินโจว อ่าวเป่ยปู้วาน เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง อย่างราบรื่น ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นการนําเข้าทุเรียนไทยของปี 2566 ผ่านท่าเรืออ่าวเป่ยปู้วาน
การนำเข้าผลไม้ครั้งนี้ ใช้รูปแบบการยื่นคำร้องผ่านพิธีการศุลกากรล่วงหน้า และยื่นผ่านการควบคุมสองขั้นตอน (เพื่อขออนุญาตเข้าประเทศและขออนุญาตวางจำหน่าย) โดยเมื่อสินค้าผลไม้ล็อตดังกล่าวส่งถึงท่าเรือแล้ว สามารถดำเนินการยืนยันการปล่อยหรือตรวจสอบได้ทันที
ปัจจุบันช่องทางการนำเข้าผลไม้ไทยของท่าเรือชินโจวได้เปิดใช้งานอย่างรอบด้าน โดยมีเที่ยวเรือด่วนขนส่งผลไม้จากไทยไปยังท่าเรือชินโจว 5 เที่ยวเรือต่อสัปดาห์ โดยการขนส่งจากท่าเรือแหลมฉบังของไทยถึงท่าเรือชินโจว ใช้เวลาขนส่งเพียง 3.5 วัน ทั้งนี้ คาดว่าในปี 2566 การนำเข้าทุเรียนไทยผ่านท่าเรืออ่าวเป่ยปู้วาน จะมีจำนวนกว่า 5,000 ตู้
นอกจากนี้ ท่าเรืออ่าวเป่ยปู้วานจะเร่งพัฒนาเพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาศัยจุดเด่นของท่าเรืออ่าวเป่ยปู้วาน รวมทั้งความต้องการในการพัฒนาการค้าของประเทศในภูมิภาคอาเซียน และความต้องการของอุตสาหกรรมในภูมิภาค ขยายธุรกิจผลไม้นําเข้าร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางเรือ และผู้ประกอบการค้าผลไม้ เพื่อผลักดันการนําเข้าผลไม้ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เพิ่มมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดผลไม้นำเข้าของจีนเริ่มโตขึ้นหลังจากจีนเข้าร่วมองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ในขณะนั้นชาวจีนเริ่มมีกำลังซื้อและมีความต้องการผลไม้นำเข้ามากขึ้น ทำให้นักธุรกิจจีนเริ่มนำเข้าผลไม้เอง ไม่รับซื้อสินค้าจากฮ่องกงเหมือนที่ผ่านมา อีกทั้งมีการลงทุนปลูกผลไม้และสร้างโรงงานคัดบรรจุผลไม้ที่ประเทศผู้ส่งออก ทำให้การนำเข้าผลไม้ของจีนโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประเทศจีนนำเข้าผลไม้จากทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี และมีปริมาณการนำเข้ามากกว่า 6 ล้านตันต่อปี ถึงแม้มูลค่าและปริมาณนำเข้าผลไม้ ของจีนจะน้อยกว่าปริมาณการบริโภคผลไม้ท้องถิ่นของจีนเอง แต่ความต้องการผลไม้นำเข้าของจีนยังคงสูง หากเทียบกับประเทศอื่น ๆ จนทำให้จีนกลายเป็นหนึ่งในประเทศนำเข้าผลไม้ที่สำคัญของโลก