“กลุ่มแปลงใหญ่ข้าว เมืองกาฬสินธุ์” ช่วยเกษตรกรลดต้นทุน คุณภาพดี ให้ผลผลิตเพิ่ม

นายนพดล ศรีพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 ขอนแก่น (สศท.4) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยถึงการติดตามโครงการส่งเสริมระบบ “การเกษตรแบบแปลงใหญ่” จังหวัดกาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2565 โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก ซึ่ง สศท.4 ได้ติดตามการดำเนินงาน “กลุ่มแปลงใหญ่ข้าวของจังหวัดกาฬสินธุ์” ซึ่งเป็นจังหวัดในพื้นที่รับผิดชอบ โดยทางกลุ่มได้เข้าร่วมโครงการระหว่างปี 2559 – 2561 และดำเนินการต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

ทางกลุ่มได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และการส่งเสริมจากหน่วยงานภาครัฐในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว การลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตข้าวคุณภาพดี โดยการผลิตน้ำหมักและปุ๋ยชีวภาพทดแทนการใช้สารเคมี การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน สนับสนุนปัจจัยการผลิต เน้นการถ่ายทอดความรู้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการด้านตลาด เพื่อให้ “เกษตรกร” มีความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ รวมถึงการพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสู่ Smart Farmer

292621146 347230644249945 8296763369940858022 n

จากการติดตามสถานการณ์การผลิตและผลการดำเนินงานของ “กลุ่มแปลงใหญ่ข้าว” ของ จ.กาฬสินธุ์ ปีงบประมาณ 2565 รอบ 9 เดือน (ตุลาคม 2564 – มิถุนายน 2565) โดยทำการติดตามแปลงใหญ่ข้าว 6 แปลง ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอยางตลาด อำเภอนาคู อำเภอเมือง อำเภอเขาวง อำเภอฆ้องชัย และอำเภอนามน พบว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรสมาชิกรวม 711 ราย พื้นที่เพาะปลูกข้าวรวมทั้งสิ้น 5,100 ไร่ (เฉลี่ย 7.17 ไร่/ราย) โดยเกษตรกรส่วนใหญ่นิยมปลูกข้าวหอมมะลิ 105

ซึ่งภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการ สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยปีเพาะปลูก 2564/65 มีต้นทุนการผลิตข้าวนาปีเฉลี่ย 2,397 บาท/ไร่/รอบการผลิต ต้นทุนลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่มีต้นทุนเฉลี่ย 3,577 บาท/ไร่/รอบการผลิต หรือลดลงร้อยละ 32.99 มีผลผลิตเฉลี่ย 350 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต ผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 320 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต (เพิ่มขึ้น 30 กิโลกรัม/ไร่/รอบการผลิต) หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.38

โดยเกษตรกรได้เริ่มเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกข้าวนาปีเดือนพฤษภาคม 2564 ระยะเวลาเพาะปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 180 วัน เก็บเกี่ยวผลผลิตช่วงเดือนตุลาคม 2564 – กุมภาพันธ์ 2565 ราคาที่เกษตรกรขายได้ ณ เดือนมิถุนายน 2565 ราคาขายข้าวเปลือกหอมมะลิ 105 ความชื้นไม่เกิน 15% เฉลี่ยอยู่ที่ 12,564 บาท/ตัน และราคาขายเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ความชื้นไม่เกิน 15% เฉลี่ยอยู่ที่ 18.50 บาท/กิโลกรัม เกษตรกรได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4,397 บาท/ไร่/รอบการผลิต คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ (กำไร) เฉลี่ย 2,000 บาท/ไร่/รอบการผลิต

ด้านสถานการณ์ตลาด สำหรับผลผลิตของ “กลุ่มแปลงใหญ่” ทางกลุ่มจำหน่ายเป็น เมล็ดพันธ์ ข้าวเปลือก และข้าวสารโดยเกษตรกรจะจำหน่ายให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ เกษตรกรสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ และเกษตรกรทั่วไป

นอกจากนี้ กลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าวจังหวัดกาฬสินธุ์ได้มีการแปรรูปโดยสีเป็นข้าวสารจำหน่ายให้กับหน่วยงานที่ได้ทำ MOU ได้แก่ โรงพยาบาล สถานศึกษา และงานออกร้านจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร

ทั้งนี้ปัจจุบันทางกลุ่มแปลงใหญ่ยังคงมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ถ่ายทอดความรู้ทั้งในกลุ่มตัวเองและเกษตรกรในพื้นที่ การลดการใช้สารเคมี มีการหมุนเวียนทรัพยากรทางการเกษตรกลับมาใช้ใหม่ การไถกลบตอซัง นำเศษวัสดุมาทำปุ๋ยหมักช่วยในการลดต้นทุน มีการแปรรูปสินค้าเป็นข้าวสารช่วยเพิ่มมูลค่า เพิ่มชนิดผลิตภัณฑ์จากขายข้าวเปลือกเพียงอย่างเดียว เพิ่มการผลิตเป็นจำหน่ายเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าว ทำให้ขายได้ราคาสูงกว่าการจำหน่ายข้าวเปลือกทั่วไป

สำหรับท่านใดที่สนใจข้อมูลสถานการณ์ผลิตของ “กลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าวจังหวัดกาฬสินธุ์” ทั้ง 6 แปลง สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ โทร 0 4301 9300 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สศท.4 โทร 043 261 513 หรือ [email protected]