นายกฯเศรษฐา เยี่ยมศูนย์ผลิตสินค้าชุมชนอุตรดิตถ์ ผลักดันของดีจังหวัดเป็นซอฟพาวเวอร์ ดันทุเรียนพืชเศรษฐกิจ

ที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน(OTOP)อำเภอลับแล จ้งหวัดอุตรดิตถ์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) อำเภอลับแล จ้งหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมตรวจราชการและติดตามความก้าวหน้าของโครงการพัฒนาการท่องเที่ยว เมืองลับแล เมืองมหัศจรรย์ของผลไม้ เมืองงาม 3 วัฒนธรรมบ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก

S 10420248
นายกฯลงพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์

โดยภายหลังรับฟังรายงานเสร็จสิ้น นายเศรษฐา กล่าวว่า ที่นี่เป็นจุดที่ 2 ที่มาเยี่ยมเยือนพี่น้องชาวอุตรดิตถ์ดีใจมาก เพราะช่วงเลือกตั้งไม่ได้มา วันนี้มีโอกาสก็ต้องมาและอยากมาเจอพี่น้องให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้วันนี้พูดถึงเรื่องของ soft Powerเยอะเหลือเกิน อุตรดิตถ์เป็นเมืองที่ขนานนามว่าเป็นเมือง 3 วัฒนธรรมมีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา เรื่องอาหาร เรื่องวัฒนธรรม เรื่องกีฬา เรื่องผลไม้ เรื่องอาหารการกินเยอะแยะไปหมด เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงที่ต้องถูกดึงเข้ามาและต้องผ่านการเอาใจใส่จากรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า จากการที่ได้ดูวีดีทัศน์จ.อุตรดิตถ์ มีนักท่องเที่ยว เข้ามาท่องเที่ยวเป็นอันดับที่ 60 ของประเทศ ซึ่งเมื่อมาดูแล้วก็มีสถานที่ที่น่าท่องเที่ยว ที่น่าสนใจเยอะมาก เมื่อสักครู่ทางหอการค้าจังหวัดอุตรดิตถ์ได้บอกว่าไม่มีที่ทำการของการท่องเที่ยวเลย ซึ่งถ้าไม่มีที่ทำงานของการท่องเที่ยวเลย จะมีการท่องเที่ยวได้อย่างไร ตนได้ยกหูหาผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้มาตั้งศูนย์การท่องเที่ยวที่นี่ ทั้งนี้ห้องพักที่นี่มีน้อยมากจึงไม่มีเหตุผลเลยที่ห้องพักจะไม่เต็มทั้งปี ดูจากวัฒนธรรม กิจกรรมต่างๆ สามารถทำให้เต็มทั้งปีได้ และทำให้ทุกเดือนเป็น High Season ก็จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการอย่างมากมาย เพราะฉะนั้นเมื่อตนกลับไปก็จะไปประชุมกับททท.และให้ KPI ไปจากนี้อีก 2 ปี จะต้องมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 1.5 ล้านคน จากเดิม 7 แสนคน นั่นหมายถึงอีกเท่าหนึ่ง ซึ่งสำนักงานททท.ต้องมีส่วนผลักดันและ คณะกรรมการ Soft Power ที่ตนเองเป็นประธานและมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเป็นรองประธานจะต้องร่วมกันผลักดัน ดึงศักยภาพตรงนี้ออกมาให้หมด เช่นมวยไทย ที่นี่มีมวยไทยท่าเสา พร้อมเล่าว่าที่อังกฤษ ที่เดียวมีค่ายมวยไทยมากถึง 6,000 ค่าย เพราะฉะนั้นนี่เป็น Soft Power ที่สำคัญที่สุดและมีคำว่า”ไทย”อยู่ ถ้าไม่นับผัดไทย และมีการกระจายไปสู่ทั่วโลกแล้ว ซึ่งตนเชื่อว่านักท่องเที่ยวหลายคนอยากจะมาที่นี่

นายเศรษฐา ยังกล่าวว่า ผลไม้ไม่ต้องพูดถึงทั้งลางสาด มะไฟ เมื่อกี้เพิ่งรู้ว่ามะฟ้าด้วย ส.ส.ที่นี่ก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยรู้มาก่อนดูแล้วน่ารับประทาน ที่สำคัญพืชเศรษฐกิจเลยคือทุเรียน ปีหนึ่งตนไม่เคยได้กินเกิน 1 ลูกเลยเพราะฉะนั้นต้องสนับสนุนให้ปลูกมากยิ่งขึ้น เมื่อจุดที่แล้วก็ได้พูดถึงการยกระดับศุลกากรที่ส่งสินค้าไปยังจีนได้โดยผ่านสปป.ลาวถ้าเรามีศุลกากรก็จะทำให้เรื่องการค้าขายของประชาชนดีขึ้น ผลไม้ต่าง ๆ ก็จะยกระดับไปขายที่ประเทศจีนได้ ทุเรียนเองเป็นพืชเศรษฐกิจแต่ในบทบัญญัติ

“ทุเรียนส่งออก 200,000 กว่าล้านหลักๆคือประเทศจีนคนไทยกินทุเรียนเฉลี่ยคนละ 5 กิโลกรัมต่อปี คนจีนกินเฉลี่ยปีละ 0.7 กิโลกรัมต่อปี บ่งบอกถึงศักยภาพของทุเรียนว่าถ้าเกิดคนจีนกินทุเรียนเท่าคนไทยต้องเพิ่มอีก 7 เท่า จาก 200,000 ล้าน เป็น 1.5 ล้านล้านซึ่งเป็นจำนวนเงินที่เยอะมากศักยภาพของจังหวัดอุตรดิตถ์สามารถปลูกทุเรียนได้ถ้ามีระบบขนส่งที่ดีผ่านไปยังประเทศจีน ได้มีด่านศุลกากร มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ตนเชื่อว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงมาก”นายเศรษฐากล่าว

นอกจากนี้ นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังมีการแจกโฉนดให้ประชาชนมีสิทธิทำกินได้อย่างภาคภูมิใจ​ นำไปกู้เงินได้​ ไม่ต้องกู้เงินเป็นหนี้นอกระบบก็เป็นปัญหาที่อยู่ในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งต้องทำให้หนี้สินนอกระบบหมดไป

ส่วนเรื่องของ soft Power ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสินค้าผ้าไหม แต่ถ้าเราไม่มีสถานที่ที่เป็นโชว์สินค้าก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ซึ่งล่าสุดคาดว่าน่าจะใช้สถานีรถไฟบางซื่อจัดให้เป็น Store เพื่อให้ได้มีการวางร้านค้าให้มีการจัดจำหน่ายสินค้าได้ เพื่อส่งเสริมพี่น้องชาวอุตรดิตถ์ทุกคนให้มีชีวิตความเป็นอยู่มีรายได้ที่สูงขึ้น

“วันนี้ดีใจที่ได้มาเห็นศักยภาพของจังหวัดนี้ท่านอย่าเพิ่งหมดกำลังใจ รัฐบาลนี้จะไม่ทอดทิ้งท่านและจะทำให้ชีวิตมันมีความเป็นอยู่ของท่านดีขึ้น”นายเศรษฐากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงศูนย์จำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน (OTOP) ได้เข้าสักการะอนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหักหน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย