รมว.ธรรมนัส พรหมเผ่า หนุนกรมวิชาการเกษตรขับเคลื่อน“เทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาภาวะวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่ ” รองรับวิกฤตการณ์ที่ส่งผลกระทบความมั่นคงทางอาหารของโลก

S 5521674
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

วันที่ 29 มกราคม  2567 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวมอบนโยบายในการสัมมนาวิชาการ “เทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ ในการแก้ปัญหาภาวะวิกฤตโลกเดือด และศัตรูพืชอุบัติใหม่” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ  กรมวิชาการเกษตร  โดยได้เชิญ ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนสมาคมฯ นักวิชาการ จากภาคส่วนต่างๆ มาร่วมสัมมนา ระดมความคิด แนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนเทคโนโลยี และความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ เพื่อรองรับภาวะโลกเดือดของโลกที่กำลังจะมาถึง ณ ห้องประชุมกองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลิตผลเกษตร กรมวิชาการเกษตร

         

S 5521673
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตร เป็นหน่วยงานสำคัญของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้านการวิจัยและพัฒนา ที่ขับเคลื่อนภาคการเกษตรของประเทศไทย ทั้งนี้ในภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รวดเร็วและรุนแรง  จนเลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกประกาศว่า “ยุคโลกร้อนสิ้นสุดลง ยุคโลกเดือดมาถึงแล้ว” ซึ่งภาวะดังกล่าวก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของศัตรูพืชอุบัติใหม่ที่สำคัญ อาทิ โรคใบด่างมันสำปะหลัง  โรคใบร่วงยางพารา ประกอบกับจำนวนประชากรโลกที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก ทั้งนี้ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม เป็นผู้ผลิตสินค้าเกษตรรายใหญ่และเป็นครัวของโลก(Kitchen of the World) จากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการยกระดับรายได้เกษตรกร 3 เท่าใน 4 ปี  การนำเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ที่มีความปลอดภัยสูง คุ้มค่า พัฒนาได้รวดเร็ว ต้นทุนต่ำ จึงมีความจำเป็น       

S 232276009
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่
S 5521672
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตระหนักถึงปัญหาภาวะวิกฤตดังกล่าว จึงเร่งผลักดันส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd ให้ก้าวทันบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ Gene Editing หรือ GEd ในการแก้ไข หรือปรับแต่งยีนให้มีความแข็งแรงสมบูรณ์ ต้านทานศัตรูพืช มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มขึ้น ผลผลิตสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตลดลง ที่สำคัญเทคโนโลยี GEd ไม่มียีนถ่ายฝากจากสิ่งมีชีวิตอื่น ไม่จัดว่าเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรม หรือ GMOs และมีความปลอดภัยสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้เทคโนโลยี GEd ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO), OECD  มี 13 ประเทศประกาศสนับสนุนในที่ประชุม WTO ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd เชิงการค้าและการบริโภคร่วมกัน และกว่า 40 ประเทศทั่วโลก อาทิ แคนาดา อเมริกา บราซิล อาร์เจนตินา ชิลี ญี่ปุ่น จีน อังกฤษ ฟิลิปปินส์ เคนยา รัสเซีย ออสเตรเลีย ประกาศใช้นโยบาย  no foreign DNA = not GMOs  โดยถือว่า พืช GEd   มีความปลอดภัยเช่นเดียวกันพืชปกติทั่วไป

S 5521670
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

“ที่สำคัญองค์กรนานาชาติ และประเทศต่าง ๆ เร่งลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี GEd เพื่อรองรับวิกฤตการณ์ความมั่นคงทางอาหารของโลก  จึงขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนการขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd และกำหนดท่าทีที่ชัดเจนของประเทศไทยในทิศทางเดียวกัน กรมวิชาการเกษตร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชน เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก FAO และประเทศต่างๆ อาทิ อเมริกา ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ร่วมผลักดันและสร้างความเชื่อมั่นในเทคโนโลยี รัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมสนับสนุนเพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์และเป็นรูปธรรม “

         

690977
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

S 232276018
ธรรมนัส หนุนขับเคลื่อนเทคโนโลยี Gene Editing แก้ปัญหาวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่

นายระพีภัทร์  จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเน้นย้ำว่าการจัดประชุมสัมมนาวิชาการ ในวันนี้ เพื่อระดมความคิดของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัย ให้ทัดเทียมนานาประเทศ และจัดทำแนวทางการดำเนินงานขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd ของประเทศไทย สื่อสารกับประชาชนและผู้บริโภค ให้เป็นที่เข้าใจว่าเทคโนโลยี GEd แตกต่างกับ GMOs รวมถึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี GEd          ในประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับภาวะวิกฤตโลกเดือดและศัตรูพืชอุบัติใหม่ ซึ่งการประชุมสัมมนาวันนี้ จะนำไปสู่ท่าทีที่ชัดเจนของประเทศไทย ในด้านเทคโนโลยี GEd ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทุกภาคส่วน เพื่อที่จะขับเคลื่อนเทคโนโลยี GEd อย่างเป็นรูปธรรม ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ต่อไป