เกษตรฯ-มหาดไทย MOU โครงการ“ชุมชนคนทำบัญชี เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” 

กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนส่งเสริมองค์ความรู้การจัดทำบัญชี ลงนาม MOU โครงการ “ชุมชนคนทำบัญชี เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” ขยายผลสู่ทุกชุมชนใน อปท.ทั่วประเทศ

นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายทรงศักดิ์ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ร่วมให้เกียรติเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “ชุมชนคนทำบัญชี เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” หนุนครูบัญชีอาสา สอนแนะความรู้การจัดทำบัญชีแก่ประชาชนในชุมชนพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกอำเภอทั่วประเทศ ระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายอำพันธุ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และนายประยูรรัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ลงนามในบันทึกข้อตกลงดังกล่าว ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์(ห้อง 115)

B83F5736 72A9 4CA3 8BAE B377E9B6E9B9

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ขับเคลื่อนโยบายการส่งเสริมการทำบัญชี เพื่อสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืนให้เกษตรกรและประชาชน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้กำชับให้กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ดำเนินงานขับเคลื่อนการนำระบบบัญชีไปวางรากฐานในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร รวมถึงลูกหลานของเกษตรกรด้วย เพื่อจะได้นำไปใช้ในการวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคต ช่วยเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกอบอาชีพเกษตรกรรมให้เกษตรกรได้อย่างมั่นคงและเป็นโอกาสในการต่อยอดสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน 

3C4E6676 3A95 4D26 B48D A94A1F0C048F

นอกจากนี้ ยังได้สนับสนุนและพัฒนาให้อาสาสมัครเกษตรกรด้านบัญชี หรือ ครูบัญชีอาสา ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จำนวน 7,636 รายทั่วประเทศ เป็นตัวแทนขับเคลื่อนการถ่ายทอดความรู้การ จัดทำบัญชีรายรับ – รายจ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพแก่เกษตรกร และประชาชนทั่วไป รวมถึงเยาวชน ได้มีความรู้พื้นฐานในเรื่องบัญชี รู้จักความพอมี พอกิน พอใช้ วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างสมเหตุสมผล สามารถนาข้อมูลไปปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในครอบครัวและชุมชน ถือเป็นหลักของความสาเร็จในการประกอบอาชีพทุกอาชีพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยในปี 2565 กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการจัดทำบัญชี ให้ขยายผลไปในทุกกลุ่มเป้าหมายแล้วกว่า 64,000 ราย 

นับเป็นการวางรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศใหก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืน ซึ่งความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการครั้งสำคัญที่จะเข้ามาเติมเต็มความรู้การจัดทำบัญชีให้กับประชาชน เนื่องจากกระทรวงมหาดไทยใกล้ชิดกับประชาชน สามารถเข้าถึงประชาชนทุกพื้นที่ กรมตรวจบัญชีและสหกรณ์ ก็จะเข้าไปเติมเต็มการจัดทำบัญชีในครัวเรือนให้เกิดความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

นายอำพันธ์ เวฬุตันติ อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือ โครงการ “ชุมชนคนทำบัญชี เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” เป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกร เยาวชน และประชาชนทั่วไป ได้พัฒนาศักยภาพในการจัดทำบัญชีรับ – จ่ายในครัวเรือน และบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ ให้สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตโดยการนำข้อมูลทางบัญชีมาใช้ในการวางแผนการใช้จ่าย ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น ทำให้เกิดการออมและการลงทุน ตลอดจนส่งเสริมการปรับพฤติกรรมในระดับครัวเรือน ให้มีขีดความสามารถในการจัดการวางแผนชีวิต การเงินและอาชีพ สร้างความตระหนักรู้เรื่องความสำคัญของการจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายและการนำข้อมูลจากการบันทึกบัญชีมาปรับใช้ในการวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต สร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง ครอบครัวและชุมชน มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ประชาชนในชุมชนพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในทุกอำเภอ 76 จังหวัด ทั่วประเทศ

0C3FC500 6FA4 4688 896A 7880E1E262E7

อธิบดีกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ กล่าวอีกว่า โครงการดังกล่าว เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2565 ในส่วนของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จะดำเนินการกำหนดหลักสูตรการอบรม สนับสนุนสมุดบัญชีและสื่อการสอน และจัดให้มีครูบัญชีอาสาของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้การจัดทำบัญชีตามหลักสูตรที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์กำหนด และกำกับ ติดตามประเมินผล การจัดทำบัญชีของกลุ่มเป้าหมายอีกด้วย ในส่วนขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น จะเป็นผู้คัดเลือกผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 – 30 คนต่อรุ่น/ชุมชน และสนับสนุนด้านงบประมาณการจัดอบรม โดยประสานงานกับสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ในจังหวัดนั้น ๆ เพื่อให้คำแนะนำการดำเนินกิจกรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามโครงการ จากความร่วมมือในครั้งนี้ จึงเป็นการขยายองค์ความรู้การจัดทำบัญชีให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นชุมชนระดับย่อยอย่างครอบคลุมทั่วประเทศไทย 

ทั้งนี้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากครูบัญชีอาสา ผู้นำชุมชน ผู้นำกลุ่มอาชีพ กลุ่มเกษตรกร ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้การส่งเสริมการจัดทำบัญชีและการดำเนินการขับเคลื่อนงานบริการสาธารณประโยชน์ต่อประชาชนระดับท้องถิ่น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ