ศาลปกครองสูงสุดพิพากษา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ชดใช้จ่ายค่าเสียหายจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท ให้เหตุผล “ประมาทเลินเล่อจนเกิดความเสียหาย”

ศาลปกครองสูงสุดพิพากษาสั่งให้น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท เนื่องจาก “ประมาทเลินเล่อจนเกิดความเสียหาย” มูลค่าชดใช้ลดลงจากที่กระทรวงการคลังเรียกร้องเดิม 35,717 ล้านบาท จบข้อพิพาททางกฎหมายที่ยืดเยื้อกว่า 8 ปี

โดยศาลปกครองสูงสุด พิพากษากลับคำตัดสินของศาลปกครองกลางให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจำนำข้าวเพียงส่วนหนึ่ง โดยพิจารณาจากระดับความรับผิดชอบที่แท้จริง

ศาลปกครองสูงสุดเห็นว่า คดีนี้เริ่มต้นในปี 2559 เมื่อกระทรวงการคลังออกคำสั่งที่ 135/2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 กำหนดให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากความเสียหายที่เกิดขึ้นในโครงการรับจำนำข้าวเต็มจำนวน 35,717,273,028 บาท

คำสั่งดังกล่าวระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะผู้นำฝ่ายบริหาร ได้ปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ ทั้งที่ทราบถึงปัญหาการทุจริตในโครงการแล้ว

ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยนายอนุสรณ์ อมรฉัตร(สามี) ได้ยื่นฟ้องคำสั่งดังกล่าวต่อศาลปกครองกลาง โดยชี้แจงว่าคำสั่งของกระทรวงการคลังไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบ ละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐาน และขาดหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายโดยตรง

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังทั้งหมด โดยศาลเห็นว่ากระทรวงการคลังไม่สามารถนำพยานหลักฐานมายืนยันได้ชัดเจนว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีเจตนาหรือเป็นผู้กระทำละเมิดโดยตรง

ทั้งนี้กระทรวงการคลัง ได้ใช้สิทธิอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด โดยนำเสนอหลักฐานเพิ่มเติมและข้อโต้แย้งที่ละเอียดมากขึ้น 

จนกระทั่งวันนี้ (22 พฤษภาคม 2568)ศาลปกครองสูงสุด มีคำสั่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ชดใช้ค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าว 10,028 ล้านบาท