นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิด “งานถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field day) เพื่อขยายศักยภาพการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวและข้าวคุณภาพดี ภายใต้โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ ปี 2568” โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งการจัดงานงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกร โดยเฉพาะกลุ่มนาแปลงใหญ่และศูนย์ข้าวชุมชน นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการ ลดต้นทุนการผลิตข้าว เพิ่มคุณภาพและมูลค่าผลผลิต เน้นย้ำนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
นายอิทธิ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความสำคัญกับการรวมกลุ่มเกษตรกรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งช่วยให้เกษตรกรได้รับการสนับสนุนองค์ความรู้และวางแผนการผลิตอย่างเป็นระบบตลอดห่วงโซ่อุปทาน ทำให้สามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และกำหนดชนิดผลผลิตให้ตรงตามความต้องการตลาด นอกจากนี้ รัฐบาลยังช่วยกำหนดตลาดล่วงหน้า สนับสนุนการแปรรูปเกษตรมูลค่าสูง และใช้การตลาดสมัยใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกรรายย่อย ทั้งด้านการผลิตและการจำหน่าย อีกทั้งการรวมกลุ่มยังเพิ่มอำนาจต่อรอง และสร้างโอกาสขยายตลาดสู่ต่างประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ รมช.เกษตรฯ ได้ย้ำถึงความสำคัญของเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำนาที่มีคุณภาพ แม้ในปี 2565/66 กรมการข้าวจะผลิตเมล็ดพันธุ์ได้ประมาณ 95,000 ตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของประเทศที่ประมาณ 1.33 ล้านตัน ดังนั้น ศูนย์ข้าวชุมชนและกลุ่มนาแปลงใหญ่ข้าว จึงเป็นช่องทางสำคัญในการเติมเต็มปริมาณเมล็ดพันธุ์ที่ยังขาดแคลน โดยยึดหลัก “ผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเองโดยชุมชน แล้วกระจายไปสู่ชุมชนของตนเองและชุมชนข้างเคียงอย่างมีคุณภาพ”
“กระทรวงเกษตรฯ จะไม่ทอดทิ้งเกษตรกรรายย่อย และพร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงาน เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้เหมือนคนในครอบครัว เพื่อให้เกษตรกรมีความมั่นคงและมั่งคั่ง อันจะส่งผลให้เศรษฐกิจและประเทศชาติมั่นคงตามไปด้วย” นายอิทธิ กล่าว
ด้าน นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของไทย งาน Field Day นี้จะช่วยเสริมสร้างความตระหนักรู้ในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และยกระดับคุณภาพข้าว เพื่อนำนโยบายการพัฒนาข้าวไปสู่การปฏิบัติทั่วประเทศ
