หลังจากกลับมาที่ปักกิ่ง ก็มี Class เรียน กับอาจารย์จาก มหาวิทยาลัย China Agricultural University – CAU ในหลายๆ วิชา มีพี่ๆ น้องๆ คนไทย หลายคนที่ผมรู้จัก จบการศึกษา ณ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เมื่อวาน พี่ที่มาอบรมกับผม ชวนไปเยี่ยมชม ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย โดยได้รับเกียรติจาก อ. Sui อาจารย์ผู้ที่รับผิดชอบ สอนภาษาจีน แบบเต็มหลักสูตรให้กับนักศึกษาต่างชาติ เอาเป็นว่า เด็กไทยทุกคนที่มาเรียนที่เนี่ย ต้องผ่านมือแก มาก็แล้วกัน
China Agricultural University – CAU มหาวิทยาลัยเกษตรชั้นนำของจีน ในปักกิ่ง ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษา “Double-First-Class” ของประเทศ ซึ่งสะท้อนถึงความเป็นเลิศทางวิชาการ และการวิจัย CAU ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2448 เมื่อวาน ที่หน้าห้องสมุด ก็มีป้ายไฟ นับถอยหลัง 120 ปี มหาวิทยาลัย ซึ่งเมื่อวานก็เหลืออีก 31 วันแล้ว
มหาวิทยาลัย CAU เป็นสถาบันการศึกษาที่ให้ความสำคัญด้านการเรียน การสอน และความเข้มข้น ในด้านงานวิชาการ ห้องสมุด จึงเป็นส่วนสำคัญ การที่ได้ไกด์กิตติมศักดิ์ ค่อยๆ พาเดินชม ทุกๆ ส่วนของห้องสมุด ที่ทันสมัยมากๆ บนความสูง 7 ชั้น จึงถือว่า เป็นอะไรที่ดีมากๆ ที่จะทำให้เราเข้าใจ ว่าการเรียนการสอน และความเข้มข้น ของงานวิชาการของ มหาวิทยาลัยแห่งนี้
ห้องสมุดแห่งใหม่ ของ CAU เป็นอาคารสูง 7 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดกว่า 40,000 ตารางเมตร โดยมีแนวคิดในการออกแบบ ที่มุ่งเน้นให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้แบบอัจฉริยะ และพื้นที่สาธารณะสำหรับการวิจัย โดยมีที่นั่งอ่านหนังสือ มากกว่า 4,000 ที่นั่ง มีระบบทำความสะอาดหนังสือ แบบอัตโนมัติ เพื่อป้องกัน การแพร่กระจายของเชื้อโรค สำหรับหนังสือที่มีนักศึกษาใช้ร่วมกัน เป็นจำนวนมาก นอกจากการทำความสะอาดหนังสือแล้ว ยังมีการทำความสะอาดบริเวณที่มีการใช้งานร่วมกัน เช่น ห้องสัมมนา ห้องประชุม โรงหนัง ห้อง KTV หลังใช้งานทันที ว้าว ๆๆๆๆ มากเลยครับ
การออกแบบอาคาร ออกแบบให้มีแสงธรรมชาติส่องถึง มีบรรยากาศโปร่งโล่ง ที่สำคัญมีมุมอ่านหนังสือที่หลากหลายมากๆ ออกแบบให้เป็นอาคารเล่นระดับชั้น และพื้นที่เปิด ผมชอบบริเวณ บันได ที่เป็นทางเชื่อมระหว่างชั้นนะ จัดให้เป็นมุมสบายๆ ซึ่งรุ่นพี่ที่ไปด้วย บอกว่า เป็นมุมสำหรับให้พักผ่อน ไปในตัว ในขณะที่อ่อนล้า จากการอ่านหนังสือ
ตั้งแต่ชั้นแรก ก็เปิดตัวด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ด้วยระบบ RFID สำหรับการยืม – คืน หนังสือด้วยตนเองแบบอัตโนมัติ ที่รวดเร็ว และแม่นยำ มีการใช้ Robot Librarians สำหรับช่วยจัดเรียง และค้นหาหนังสือบนชั้น มีระบบนิเวศดิจิทัล สำหรับบริการค้นหา ข้อมูลออนไลน์ การเข้าถึงฐานข้อมูลอิเลกทรอนิกส์ จากทุกจุดในห้องสมุด ที่ทำให้ผมทึ่งก็คือ มีแผงหนังสือ ออนไลน์ ขนาดใหญ่ สูงสัก 5 เมตร ได้ให้เราเลื่อนหา และสแกนหนังสืออ่านได้เลย
ห้องสมุด มีพื้นที่การเรียนรู้แบบใหม่ ทั้งพื้นที่สำหรับการอภิปรายกลุ่ม จัดให้มีห้องเล็กๆ สำหรับทำงานกลุ่มโดยไม่รบกวนผู้อื่น อีกทั้ง พื้นที่อ่านหนังสือส่วนตัว สำหรับการอ่านที่ต้องการความสงบ มีพื้นที่สร้างสรรค์ มีอุปกรณ์สำหรับการเรียนรู้นอกห้องเรียนเยอะมาก มีห้องศึกษาวิจัย สำหรับนักศึกษาและอาจารย์ที่ต้องการทำงานวิจัยอย่างเข้มข้น มีโซนเฉพาะสำหรับนักศึกษา ปริญญาเอก เพื่อการศึกษา ค้นคว้า และห้องสำหรับประชุม สัมมนาแบบกลุ่ม รวมทั้งมี ห้องประชุม ขนาดกลาง สำหรับรองรับการประชุมระดับประเทศ
ที่ทำให้ผมประหลาดใจที่สุด ก็คือ มีห้องคาราโอเกะให้บริการ เป็นพื้นที่คลายเครียด สำหรับนักศึกษาในระหว่างการเรียน และที่สำคัญมีโรงหนัง ในห้องสมุดด้วย ซึ่งผมว่าแนวคิดโรงหนังในห้องสมุด เป็นอะไรที่เอื้อต่อการเรียนการสอนมากๆ นักศึกษาสามารถศึกษาภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการเรียน ทั้งคาราโอเกะ และโรงหนัง สะท้อนถึง ความเป็นมหาวิทยาลัยสมัยใหม่ ที่ใส่ใจ wellbeing ของนักศึกษารอบด้าน ไม่เพียงแต่ ความรู้ แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริม ทั้งการเรียนรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และการพักผ่อนอย่างสมดุล
ห้องสมุดใหม่ ของ CAU ไม่ได้เป็นเพียงที่เก็บหนังสือ แต่ถูกออกแบบมาให้เป็น “หัวใจทางปัญญา และสังคมของมหาวิทยาลัย” ที่ส่งเสริมการเรียนการสอน และการวิจัยในศตวรรษที่ 21 อย่างเต็มที่ การที่มีโอกาสได้ไปเยือนถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ครับ ขอบคุณ อ.Sui ดร.พักตร์วิภา และ ดร.อรวรรณ ที่ทำให้การมาเยี่ยมชม ห้องสมุดของมหาวิทยาลัย ในวันนี้ ดีต่อใจมากๆ
