“ใบพลู” พืชเศรษฐกิจอยู่คู่กับสังคมไทยมายาวนาน มีสรรพคุณทางยาหลากหลาย

ใบพลู (Betel Leaf) เป็นพืชสมุนไพรและพืชเศรษฐกิจที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน นิยมนำมาใช้ร่วมกับหมากในวัฒนธรรมการเคี้ยวหมาก และมีสรรพคุณทางยาหลากหลายประการ 

542976043

สรรพคุณและประโยชน์ของใบพลู

“ใบพลู” มีน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด เช่น chavicol และ eugenol ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นดังนี้: 

  • บรรเทาอาการทางผิวหนัง: ใช้ใบสดขยี้ทาแก้ลมพิษ แก้คัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด
  • ระบบทางเดินอาหาร: น้ำคั้นจากใบช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
  • สุขภาพช่องปาก: ช่วยลดกลิ่นปาก บรรเทาอาการปวดฟัน และรักษารำมะนาด
  • ระบบทางเดินหายใจ: ใช้ใบสดรักษาอาการอักเสบในลำคอ แก้ไอ และช่วยขับเสมหะ
  • ความสดชื่น: การเคี้ยวใบพลูช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและกระตุ้นการทำงานของหัวใจ
488241274 1067515475409454 2202842840566949606 n

วิธีการใช้เบื้องต้น

  1. แก้ลมพิษ/แก้คัน: นำใบพลูสด 3-4 ใบมาตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าโรงเล็กน้อย แล้วใช้ทาบริเวณที่มีอาการ
  2. ขับลม: ใช้น้ำคั้นจากใบพลูสดรับประทานเพื่อช่วยระบายลมในลำไส้
  3. แก้ปวดฟัน: เคี้ยวใบพลูสดหรือตำแล้วนำไปอุดบริเวณที่ปวด 
487534804 1067515888742746 3290029801011030669 n

ข้อควรระวังและการจำแนก

  1. ความแตกต่าง: ระวังการสับสนระหว่าง “ใบพลู” (ที่ใช้เคี้ยวหมาก) กับ “ใบชะพลู” (ที่ใช้ทำเมี่ยงคำ/แกง) เนื่องจากมีรูปลักษณ์คล้ายกันแต่สรรพคุณและรสชาติต่างกัน
  2. ความเสี่ยงจากการเคี้ยวหมาก: การเคี้ยวใบพลูร่วมกับหมากเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในช่องปาก
  3. การบริโภค: การกินใบสดในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้ในบางราย 
487219562 1067515785409423 787831040033566104 n

การปลูกพลู

การปลูกพลู ให้เริ่มจากการพรวนไถดินและตากไว้เป็นเวลา  14 วัน ก่อนที่จะพรวนและไถดะดินอีกรอบก่อนจะปลูก เพื่อกำจัดวัชพืชต่างๆ ให้หมดไป  จากนั้นก็ขุดหลุมโดยเว้นระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1.5 เมตร และให้มีขนาดหลุมกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ยาว 40 เซนติเมตร และขุดให้ลึก 30 เซนติเมตร จากนั้นนำปุ๋ยคอกมาใส่ลงในดินและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนที่จะนำใส่ลงไปในหลุมทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยนำยอดพลูปักชำที่แตกหน่อ หรือ ควั่นไว้แล้วประมาณ 14-21 วัน โดยยอดที่เลือกจะเป็นยอดที่ไม่แก่และอ่อนจนเกินไป โดยสังเกตได้จากจำนวนข้อ ที่มีข้ออยู่ประมาณ 5-7 ข้อ และมีความยาวประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร  นำไปปักชำไว้ประมาณ 14-21 วัน ก่อนที่จะนำมาปลูกลงแปลง

เมื่อนำท่อนพันธุ์ที่ผ่านการปักชำตามระยะเวลาดังกล่าวมาปลูกลงแปลงแล้ว ให้นำวัสดุที่สามารถบังแดดมาใช้บังร่มไว้ หลังจากนั้นให้รดน้ำทุกวันทั้งเช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ และควรหมั่นกำจัดวัชพืชเป็นประจำเพื่อไม่ทำให้ใบพลูเกิดความเสียหายและยังคงให้ผลผลิตสวยงามอยู่ จากนั้นก็ให้ใส่ปุ๋ยคอก 2-3 เดือนต่อครั้ง เมื่อต้นพลูอายุได้ประมาณ 6 เดือนก็สามารถทำการเก็บเกี่ยวใบไว้บริโภค หรือไว้ค้าขายได้แล้ว