ใบพลู (Betel Leaf) เป็นพืชสมุนไพรและพืชเศรษฐกิจที่อยู่คู่กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน นิยมนำมาใช้ร่วมกับหมากในวัฒนธรรมการเคี้ยวหมาก และมีสรรพคุณทางยาหลากหลายประการ

สรรพคุณและประโยชน์ของใบพลู
“ใบพลู” มีน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด เช่น chavicol และ eugenol ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- บรรเทาอาการทางผิวหนัง: ใช้ใบสดขยี้ทาแก้ลมพิษ แก้คัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด
- ระบบทางเดินอาหาร: น้ำคั้นจากใบช่วยขับลม บรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ
- สุขภาพช่องปาก: ช่วยลดกลิ่นปาก บรรเทาอาการปวดฟัน และรักษารำมะนาด
- ระบบทางเดินหายใจ: ใช้ใบสดรักษาอาการอักเสบในลำคอ แก้ไอ และช่วยขับเสมหะ
- ความสดชื่น: การเคี้ยวใบพลูช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและกระตุ้นการทำงานของหัวใจ

วิธีการใช้เบื้องต้น
- แก้ลมพิษ/แก้คัน: นำใบพลูสด 3-4 ใบมาตำให้ละเอียด ผสมกับเหล้าโรงเล็กน้อย แล้วใช้ทาบริเวณที่มีอาการ
- ขับลม: ใช้น้ำคั้นจากใบพลูสดรับประทานเพื่อช่วยระบายลมในลำไส้
- แก้ปวดฟัน: เคี้ยวใบพลูสดหรือตำแล้วนำไปอุดบริเวณที่ปวด

ข้อควรระวังและการจำแนก
- ความแตกต่าง: ระวังการสับสนระหว่าง “ใบพลู” (ที่ใช้เคี้ยวหมาก) กับ “ใบชะพลู” (ที่ใช้ทำเมี่ยงคำ/แกง) เนื่องจากมีรูปลักษณ์คล้ายกันแต่สรรพคุณและรสชาติต่างกัน
- ความเสี่ยงจากการเคี้ยวหมาก: การเคี้ยวใบพลูร่วมกับหมากเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในช่องปาก
- การบริโภค: การกินใบสดในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะได้ในบางราย

การปลูกพลู
การปลูกพลู ให้เริ่มจากการพรวนไถดินและตากไว้เป็นเวลา 14 วัน ก่อนที่จะพรวนและไถดะดินอีกรอบก่อนจะปลูก เพื่อกำจัดวัชพืชต่างๆ ให้หมดไป จากนั้นก็ขุดหลุมโดยเว้นระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1.5 เมตร และให้มีขนาดหลุมกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ยาว 40 เซนติเมตร และขุดให้ลึก 30 เซนติเมตร จากนั้นนำปุ๋ยคอกมาใส่ลงในดินและคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนที่จะนำใส่ลงไปในหลุมทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ จากนั้นจึงค่อยนำยอดพลูปักชำที่แตกหน่อ หรือ ควั่นไว้แล้วประมาณ 14-21 วัน โดยยอดที่เลือกจะเป็นยอดที่ไม่แก่และอ่อนจนเกินไป โดยสังเกตได้จากจำนวนข้อ ที่มีข้ออยู่ประมาณ 5-7 ข้อ และมีความยาวประมาณ 40 – 50 เซนติเมตร นำไปปักชำไว้ประมาณ 14-21 วัน ก่อนที่จะนำมาปลูกลงแปลง
เมื่อนำท่อนพันธุ์ที่ผ่านการปักชำตามระยะเวลาดังกล่าวมาปลูกลงแปลงแล้ว ให้นำวัสดุที่สามารถบังแดดมาใช้บังร่มไว้ หลังจากนั้นให้รดน้ำทุกวันทั้งเช้าและเย็นอย่างสม่ำเสมอ และควรหมั่นกำจัดวัชพืชเป็นประจำเพื่อไม่ทำให้ใบพลูเกิดความเสียหายและยังคงให้ผลผลิตสวยงามอยู่ จากนั้นก็ให้ใส่ปุ๋ยคอก 2-3 เดือนต่อครั้ง เมื่อต้นพลูอายุได้ประมาณ 6 เดือนก็สามารถทำการเก็บเกี่ยวใบไว้บริโภค หรือไว้ค้าขายได้แล้ว




