พาณิชย์เกาะติดสถานการณ์ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ “เน้นทุกฝ่ายต้องเกื้อกูลกัน” 

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้ประชุมหารือร่วมกับผู้แทนเกษตรกร จ.เพชรบูรณ์สมาคมการค้าพืชไร่ เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565 เพื่อรับฟังสถานการณ์ราคาและปัญหาของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ร้องขอความช่วยเหลือให้โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพดในราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปีนี้ต้นทุนการเพาะปลูกเพิ่มสูงขึ้น 

ประกอบกับช่วงทีผ่านมามีฝนตกทำให้บางพื้นที่มีน้ำท่วมขังส่งผลต่อคุณภาพ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้วต้องขายสด ได้ราคาไม่คุ้มกับต้นทุน และโรงงานอาหารสัตว์บางแห่งยังจำกัดคิวรับซื้อทำให้รถขนตกค้างหน้าโรงงาน ซึ่งได้รับฟังและจะได้หารือกับผู้ผลิตอาหารสัตว์ว่าจะมีแนวทางการแก้ปัญหากันอย่างไร

เวลาต่อมาได้ประชุมกับผู้แทนสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยเพื่อให้ข้อเท็จจริง พร้อมทั้งรับฟังสถานการณ์การซื้อ-ขาย ซึ่งสมาคมฯ ได้คาดการณ์แนวโน้มราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ยังคงอยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกยังมีราคาอยู่ในระดับสูง ทางโรงงานยังมีความจำเป็นที่จะซื้อข้าวโพดซึ่งเป็นทางเลือกแรก

ที่โรงงานอาหารสัตว์จะนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จะอ่อนตัวลงจากเดือนที่ผ่านมาแต่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีที่แล้ว (+4%) และโรงงานอาหารสัตว์ยังคงต้องแบกรับต้นทุนและราคาขายปลีกอาหารสัตว์ในประเทศยังไม่มีการปรับเพิ่มขึ้น แต่ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ตลอดฤดูการผลิตนี้คาดว่าจะไม่ต่ำไปกว่า 11 บาท/กก. 

รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า “ช่วงกันยายน – ธันวาคม ของทุกปี เป็นช่วงที่ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ทยอยออกสู่ตลาดมาก ประมาณ 82% ซึ่งแนวโน้มราคาอาจปรับตัวลดลงได้ตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม ภาครัฐได้เตรียมมาตรการรองรับ ทั้งการประกันรายได้ที่ดำเนินการมาต่อเนื่องและมาตรการคู่ขนานเพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยให้สถาบันเกษตรกรและผู้ประกอบการเร่งรับซื้อในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก รวมทั้งการบริหารจัดการวัตถุดิบสำหรับการผลิตอาหารสัตว์ให้มีความสมดุลทั้งในด้านราคาและปริมาณ

ความต้องการใช้ของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ขอให้ผู้ผลิตเน้นการใช้วัตถุดิบในประเทศเพิ่มขึ้น และขอให้รักษาระดับราคารับซื้อให้อยู่ในเกณฑ์ที่จะช่วยให้เกษตรกรอยู่ได้และผู้ผลิตเองก็ไม่แบกรับต้นทุนจนเกินสมควรทุกฝ่ายต้องเกื้อกูลกันในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารสัตว์ซึ่งจะขาดส่วนหนึ่งส่วนใดไปไม่ได้ สำหรับภาครัฐก็จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อดูแลทุกภาคส่วนให้ได้รับความเป็นธรรม”