กรมโรงงานอุตสาหกรรม รุดลงพื้นที่ จ.ระยอง พบโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งชาติ ทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมกว่า 80,000 ตัน ลักลอบทิ้ง ฝังกลบ โดยไม่ได้รับอนุญาต กระทบชุมชน พร้อมสั่งหยุดทันที เร่งดำเนินการอย่างเฉียบขาดตามกฎหมาย
วันที่ 8 กันยายน 2565 นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สั่งการด่วนให้นายพฤกษ์ ศิโรรัตนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการกองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด อำเภอเมืองจังหวัดระยอง
จากกรณีได้รับการร้องเรียนจากประชาชนพื้นที่เขตเทศบาลเมืองมาบตาพุด ว่าในแต่ละวันมีรถบรรทุกขนาดใหญ่บรรทุกผงฝุ่นสีขาวเต็มคันสัญจรไปมาประมาณ 100 คัน บางคันใช้ผ้าใบสแลนกันแดดคลุมและบางคันไม่มีการคลุมป้องกัน ซึ่งเมื่อรถบรรทุกดังกล่าววิ่งด้วยความเร็ว จะส่งผลให้ฝุ่นฟุ้งกระจายตามท้องถนน และปลิวเข้าบ้านเรือน ตลอดจนติดล้อรถออกมาสะสมบริเวณพื้นผิวจราจร ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่และผู้สัญจรไปมา เป็นอย่างมาก
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบกองกากของเสียอุตสาหกรรมจำนวนมากในพื้นที่โรงงาน มีรถบรรทุกจอดรอคิว เพื่อขนของเสียไปทิ้งนอกโรงงาน ซึ่งโรงงานดังกล่าวประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมี ยิปซัม แอมโมเนีย แอมโมเนียไฮดรอกไซด์ กรดกำมะถัน ตรวจสอบพื้นที่ภายในบริเวณโรงงานพบวัสดุลักษณะผงสีขาวจับตัวกันแข็งเป็นก้อนกองสูง 20-30 เมตร บนพื้นที่ประมาณ 100 ไร่
คาดมีจำนวนกว่า 500,000 ตัน โดยมีรถแบ็กโคนับ 10 คัน กำลังขุดตักของเสียใส่รถบรรทุกเพื่อนำออกไปทิ้งนอกโรงงาน
จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่บริษัท พบว่าเป็นของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตของโรงงานผลิตปุ๋ยแห่งชาติ ที่ได้เลิกกิจการไปแล้วกว่า 20 ปี โดยยอมรับว่าได้ขนออกไปแล้วกว่า 80,000 ตัน เพื่อไปฝังกลบไว้ในที่ดินว่างห่างออกไปจากโรงงาน 10 กิโลเมตร กรอ.ได้ตามไปตรวจสอบในพื้นที่ฝังกลบ พบว่าเป็นบ่อดินเดิมที่ทิ้งร้าง และมีรถแบ็กโค 5 คันกำลังไถปรับพื้นที่ จึงสั่งให้ผู้ควบคุมหยุดการดำเนินการทั้งหมด
กรอ.ได้สั่งการให้โรงงานหยุดขนออกนอกโรงงานโดยเด็ดขาด เพื่อไม่ให้การขนย้ายมีผลกระทบกับชุมชนโดยรอบ และเก็บตัวอย่างผงฝุ่นสีขาวไปเพื่อตรวจสอบ เนื่องจากการขนย้ายดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตจาก กรอ. ทั้งนี้ กรอ.จะสั่งการให้เร่งนำไปบำบัดและกำจัดให้ถูกต้อง ทั้งของที่อยู่ในโรงงานและที่นำไปลักลอบทิ้ง และพร้อมดำเนินการตามกฎหมายกับโรงงานให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้ การลักลอบทิ้งกากเป็นปัญหาเรื้อรังมานาน และสร้างผลกระทบต่อชุมชนอย่างมาก กรอ.จึงได้พยายามแก้ปัญหาดังกล่าวแบบครบวงจร โดยที่ผ่านมาได้มีการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับกากอย่างเข้มงวดมาโดยตลอด ทั้งเสนอแก้ไขกฎหมายเพิ่มโทษจำคุกกับพวกลักลอบทิ้งกาก ตลอดจนดำเนินคดีกับโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่รายงานการขนกากออกนอกโรงงานกว่า 50,000 ราย
พร้อมทั้งนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มากำกับการขนย้ายกากแบบครบวงจร (E-Fully Manifest) และในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 นี้ กรอ.จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่มีหน้าที่รับกำจัดกาก แบบปูพรมทั่วประเทศพร้อมกัน เพื่อกำกับการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพที่สุด