พรรคเพื่อไทยนำโดยนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ส.ส.เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย เช่น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และรองหัวหน้าพรรค นายศรีเรศ โกฎคำลือ ส.ส.เชียงใหม่ นางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่
รวมทั้งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ดูแลด้านนโยบาย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย รวมทั้งว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เช่น นายณัฏฐ์พัฒน์ รัฐผไท นายนิธิกร วุฒินันชัย นพ.ไกร ดาบธรรม นายโกวิทย์ พิริยะอานันต์ ร่วมพูดคุยรับฟังปัญหาของพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ที่สหกรณ์การเกษตร สันป่าตองสหกรณ์การเกษตรสันป่าตอง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่
ตัวแทนเกษตรกร จ.ลำพูน สะท้อนปัญหาว่า ลำไยคือพืชผลทางการเกษตรที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพี่น้องประชาชนภาคเหนือ ที่ผ่านมารัฐบาลไม่สนใจในการแก้ไขปัญหา และรัฐแก้ไขปัญหาไม่ถูกจุด เช่น การรับซื้อผลผลิตลำไยจากเกษตรกรของล้ง (พ่อค้าคนกลาง) ไม่เป็นไปตามมาตรฐานเครื่องร่อนลำไยที่คัดแยกไว้ แต่เมื่อล้งนำไปจำหน่ายต่อกลับนำเอาลำไยเกรดใกล้เคียงกันไปขายรวมเกรดกัน เช่น ลำไยเกรด AA กิโลกรัมละ 12 บาท เกรด A อยู่ที่ 5 บาท เกรด B อยู่ที่ 4 บาท เกรด C อยู่ที่ 3 บาท
โดยพบว่าราคาลำไยเกรด AA และ เกรด A ราคาแตกต่างกันมาก แต่เมื่อล้งรับซื้อไปขายต่อกลับนำไปขายปะปนกันแบบเฉลี่ยราคา จึงอยากให้พรรคเพื่อไทย เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ เพราะที่ผ่านมา ก่อนการเกิดรัฐประหาร เมื่อผลผลิตลำไยกำลังจะถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว รัฐบาลเพื่อไทยจะเข้ามาพูดคุยกับเกษตรกรและล้ง เพื่อกำหนดราคารับซื้อลำไยร่วมกัน จึงอยากให้นำแนวทางนี้กลับมาอีกครั้ง เชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาลำไยราคาตกต่ำได้
นอกจากนี้ ตัวแทนเกษตรกรอยากให้พรรคเพื่อไทยผลักดัน ร่าง พ.ร.บ. ลำไย ต่อในสภา ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยได้ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ เป็นการหารือทางออกร่วมกันระหว่างฝ่ายราชการ เกษตรกร และล้ง เพื่อให้การผลิตและการจำหน่ายสอดคล้องได้ราคาที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย เพราะที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เกษตรกรผู้ปลูกลำไยกำลังล่มสลาย รัฐบาลไม่เคยดูดำดูดี
นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ข้อเสนอของพี่น้องเกษตรกรในการชดเชยราคาสินค้าเกษตรตรงไปที่เกษตรกร พรรคเพื่อไทยอยู่ในระหว่างการหาทางออกที่ดีที่สุด เพื่อให้การชดเชยถึงมือพี่น้องเกษตรกร ยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยจะพลิกชีวิตเกษตรกร ให้เป็นการเกษตรแบบใหม่ด้วยวิธีการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” เพราะเรามองว่า “ทุกข์ของแผ่นดิน คือทุกข์ของเพื่อไทย” ส่วนความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาราคาลำไยตกต่ำผ่านร่าง พ.ร.บ.ลำไยที่ได้ยื่นต่อประธานสภาไปนั้น จะได้รับความสนใจจากรัฐบาลหรือไม่ จะเป็นตัวชี้วัดในการแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรได้เป็นอย่างดี มั่นใจว่าพี่น้องประชาชนชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจเลือก ส.ส.เพื่อไทยครบทั้ง 11 เขตในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง ดูแลด้านนโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ทุกข์ของเกษตรกรคือทุกข์ของแผ่นดิน พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน ปัญหาของเกษตรกรและชาวสวนลำไยคือปัญหาของพรรคเพื่อไทยด้วย โดย ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยได้หารือร่วมกันคิดหาทางออกไว้หลายเรื่อง ที่ผ่านมาเกษตรกรผลิต พาณิชย์ไปขาย
แต่วันนี้พรรคเพื่อไทยกลับข้าง เพราะเราหาตลาดให้แล้ว เช่น ลำไยผลสุกตก เราเห็นช่องทางขายที่ประเทศอินเดีย ซึ่งมีประชากรพันล้านคน และมีประชากรที่บริโภคมังสวิรัตจำนวนมาก และลำไยเป็นผลไม้เป็นที่ต้องการของตลาดเพราะให้พลังงาน ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หาช่องทางขายได้ แต่รัฐบาลไม่สนใจ ไม่สามารถหาวิธีการจัดการผลผลิตได้ แม้เราพยายามผลักดันกฎหมาย แต่อาจไม่ใช่ทางออกทั้งหมด แต่คืออำนาจในการต่อรองของเกษตรกร และจะยิ่งเป็นคำตอบให้กับเกษตรกรมากขึ้น เพราะเมื่อเพื่อไทยเป็นรัฐบาล “เราทำทันที เราแก้ปัญหาพี่น้องเกษตรกรได้แน่นอน”
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพัฒนาเชียงใหม่และจังหวัดภาคเหนือ เป็นสิ่งที่รัฐบาลตั้งแต่พรรคไทยรักไทย จนมาถึงเพื่อไทยยังคงไว้ซึ่งค่านิยมเดิม ภายใต้ไอเดียใหม่เป็นคำตอบให้กับพี่น้องประชาชนและสามารถทำได้จริง
“หากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะดูแลพี่น้องเกษตรกรอย่างดีที่สุด พรรคเพื่อไทยขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องเกษตรกร มีแรงกาย แรงใจ เพื่อเตรียมพร้อมให้พรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ เพื่อให้บุคคลที่มีความรู้ความสามารถของพรรคเพื่อไทย เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ“
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทย ได้เยี่ยมชมและศึกษาโมเดลการเกษตรแบบใหม่ที่โรงงานข้าวโพดซันสวีท ซึ่งพรรคเพื่อไทยสนใจใน”ซันสวีทโมเดล” เป็นการดำเนินโครงการร่วมกับเกษตรกรแบบเกษตรพันธะสัญญา(Contract farming) ด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า ทำให้สามารถใช้การวางแผน จัดการความเสี่ยงสินค้าเกษตร จนสามารถมีข้าวโพดดิบป้อนโรงงาน ต่อเนื่องสม่ำเสมอที่ 600-700 ตัน/วัน เกิดการจ้างงานในพื้นที่กว่า 1,600 คน และผลิตสินค้าได้ 24 ชั่วโมง ปัจจุบันมีเกษตรกรร่วมโครงการ 20,000 ราย พื้นที่ร่วมโครงการ 200,000 ไร่
นางสาวแพทองธาร กล่าวภายหลังเยี่ยมชมโรงงานข้าวโพดซันสวีท โดยยืนยันว่า พี่น้องเกษตรกรคือแรงสำคัญ เป็นพลังหลัก ปัญหาปากท้องและความกินดีอยู่ดีต้องเริ่มที่เกษตรกร เมื่อเกษตรกรแข็งแรง จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนประเทศแข็งแรงให้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้ (10 กันยายน 2565) จะมีการเปิดตัวนโยบายพรรคเพื่อไทยเป็นครั้งแรก อยากให้พี่น้องประชาชนติดตาม เพราะผ่านการทำงานอย่างหนักของพรรคเพื่อไทย และจะมีการทยอยเปิดตัวนโยบายหลังจากนี้
ส่วนโครงการจำนำข้าวจะดำเนินการต่อหรือไม่เบื้องต้นจะต้องปรับแก้ไข ทบทวนในบางกระบวนการ เพื่อให้ตอบสนองปัญหาให้เกษตรกรได้อย่างแท้จริง ซึ่งที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่าโครงการนี้คือการดิสรัปต์ช่วยเกษตรกรให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายเดิมคือการช่วยเหลือเกษตรกร
“ที่ผ่านมาการลงพื้นที่ อิ๊งค์มีพรรคเพื่อไทยสนับสนุน เราเดินหน้าหาเสียงตามจุดมุ่งหมายของเรา เพื่อให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นจริง ๆ อิ๊งค์พร้อมที่จะไปเจอพี่น้องประชาชน พร้อมรับฟังปัญหา และปรึกษากับพรรคเพื่อไทยจะหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชน เรานำเสนอความตั้งใจแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน อะไรที่มีใจอยู่แล้ว เราไม่ต้องผลักมันมากค่ะ” นางสาวแพทองธารกล่าว