นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยผ่านรายการ “คุยเรื่องบ้าน เรื่องเมือง คุยทุกเรื่องกับรัฐมนตรี” ว่า จากสถานการณ์ปัจจุบันที่พบว่าราคาปุ๋ยเคมีเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์โดยช่วงรอบปีที่ผ่านมาราคาปุ๋ยเคมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากหลายปัจจัยรวมกัน ได้แก่ การขึ้นราคาของแก๊สธรรมชาติ และน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของการผลิตปุ๋ยเคมี สงครามในยูเครน ประกอบกับการจำกัดการส่งออกของผู้ผลิตปุ๋ยที่สำคัญ เช่น รัสเซีย และจีน ซึ่งราคาปุ๋ยเคมีเริ่มมีราคาสูงขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2563 และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้น การหาทางออกเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรไทย ด้วยการแก้ปัญหาปุ๋ยเคมีระยะยาวคือ โครงการเหมืองแร่โพแทช เป็นหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหา โดยการนำแร่โพแทช มาสกัดเป็นปุ๋ยโพแทชซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของธาตุอาหารหลักของพืชใช้เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยในปีนี้ (2565) ราคาปุ๋ยโพแทชภายในประเทศ ปรับขึ้นจากตันละ 9,000 บาท เป็นตันละ 25,600 บาท และมีแนวโน้มจะขยับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาตลาดโลก
สำหรับโครงการเหมืองแร่โพแทชจะอยู่ภายใต้กรอบการดำเนินงานที่ถูกต้องและคำนึงถึงองค์ประกอบทุกส่วนเป็นสำคัญ ทั้งความปลอดภัยของตัวเหมือง การขุดเจาะที่ไม่ทำให้ดินยุบ โครงสร้างที่แข็งแรงและด้านสิ่งแวดล้อม เมื่อมีการทำเหมืองแล้วจะต้องไม่เกิดผลกระทบกับแหล่งน้ำ ดิน ฝุ่น การปนเปื้อนจากเกลือ
ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐจะต้องกำชับกับบริษัทผู้ประกอบกิจการให้มาก ขณะเดียวกันเชื่อมั่นว่าโครงการเหมืองแร่โพแทชจะทำให้ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ดีขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่อีสานตอนบนเป็นพื้นที่หนึ่งที่มีความสำคัญโดยเฉพาะธุรกิจปุ๋ยซึ่งหากมีการทำเหมืองแร่โพแทชก็ลดการนำเข้าปุ๋ยโพแทชประมาณ 1 ล้านตันต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยเป็นผู้นำเข้าปุ๋ยสูงเป็นอันดับ 5 ในทวีปเอเชีย โดยนำเข้ามาจากประเทศแคนาดา รัสเซีย เบลารุส และเยอรมนี ที่สำคัญคือเกษตรกรสามารถซื้อปุ๋ยได้ในราคาที่ถูกลงไม่น้อยกว่า 20% เพราะไม่ต้องเสียค่าขนส่งมาจากต่างประเทศอีกต่อไป
ข้อมูลจาก Economic intelligence Center ของธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุว่า แร่โพแทชนำมาใช้ในอุตสาหกรรมผลิตปุ๋ยเป็นหลัก โดยเป็นวัตถุดิบในการผลิตปุ๋ยโพแทสเซียม ซึ่งเป็นหนึ่งสามธาตุอาหารหลักของพืชผลที่ใช้ในการเพิ่มคุณภาพผลผลิตและป้องกันโรคและแมลง ดังนั้น การขยายตัวของประชากรทั่วโลกซึ่งส่งผลต่อความต้องการด้านพืชผลทางการเกษตรทำให้ปริมาณความต้องการแร่โพแทชยังสูงต่อเนื่อง หากไทยสามารถพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่โพแทชภายในประเทศเพื่อลดการนำเข้าได้จะช่วยลดต้นทุนให้แก่ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี แม้ไทยจะมีศักยภาพสูงในการพัฒนาเหมืองแร่โพแทช เนื่องจากมีจุดแข็งในด้านปริมาณสำรองและคุณภาพของแร่ ตลอดจนความเข้มแข็งของภาคเกษตรและธุรกิจอาหาร แต่ก็ต้องพิจารณาถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
ดังนั้น การให้ข้อมูลเพื่ออธิบายถึงผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และการเฟ้นหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาช่วยในการบริหารจัดการเหมืองแร่ จะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นได้มากที่สุดและพัฒนาอุตสาหกรรมเหมืองแร่โพแทชได้อย่างยั่งยืน