กำจัด “เพลี้ยไฟ” ในทุเรียน ยังไง… ให้อยู่หมัด

ช่วงนี้บ้านเราเข้าสู่ฤดู“ทุเรียน”ออกดอกออกผล สร้างรายได้ให้กับ “ชาวสวนทุเรียน” อย่างงาม

แต่สภาพอากาศในช่วงนี้อากาศร้อนและฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือน “ผู้ปลูกทุเรียน” ในระยะ ออกดอก ติดผล รับมือ “เพลี้ยไฟพริก” ซึ่งทั้งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยใช้ปากเขี่ยและดูดกินน้ำเลี้ยงส่วนอ่อนต่าง ๆ ของพืช มีผลทำให้ใบอ่อนหรือยอดอ่อนชะงักการเจริญเติบโตแคระแกร็น ใบโค้ง แห้งหงิกงอและไหม้

การทำลายในช่วงดอกทำให้ดอกแห้ง ดอกและก้านดอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแคระแกร็นและร่วงได้และในช่วงผลอ่อน ทำให้ชะงักการเจริญเติบโต หนามเป็นแผลและเกิดอาการปลายหนามแห้ง ผลไม่สมบูรณ์และแคระแกร็น เพลี้ยไฟจะระบาดรุนแรงในช่วงแล้ง ระหว่างธันวาคม–พฤษภาคมซึ่งตรงกับระยะที่ “ต้นทุเรียน” ออกดอกติดผล “เพลี้ยไฟ”มีอาหารอย่างอุดมสมบูรณ์ สามารถเพิ่มปริมาณได้มาก

280027761 330345229244698 163390820415892636 ncd.sj
“เพลี้ยไฟ” ในทุเรียน

สำหรับ “เพลี้ยไฟ” เป็นแมลงที่มีขนาดเล็กมาก ลำตัวยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ตัวอ่อนมีสีเหลือง ตัวเต็มวัยมีสีน้ำตาลปนเหลือง เคลื่อนไหวรวดเร็ว มีวงจรชีวิตสั้น แพร่พันธุ์ได้รวดเร็ว มีนิสัยชอบอยู่ในที่ซ่อนเร้น เช่น ภายในยอดอ่อน ช่อดอก และผลอ่อนของพืช ตัวเมียจะวางไข่ภายใต้ผิวเนื้อเยื่อของพืช ทำให้รอดพ้นจากฤทธิ์ของสารเคมี ดังนั้น จึงสังเกต “เพลี้ยไฟ” ที่เข้าทำลายพืชในระยะเริ่มแรกได้ยากด้วยตาเปล่า การป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟให้ได้ผลดี จึงเป็นเรื่องยากสำหรับเกษตรกร การเรียนรู้ถึงวิธีป้องกันและกำจัด “เพลี้ยไฟ” อย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ

วิธีกำจัด “เพลี้ยไฟ” ให้อยู่หมัด

  1. สำรวจการระบาดของ “เพลี้ยไฟ” ในระยะแตกใบอ่อน ดอก และผลอ่อน หากพบ “เพลี้ยไฟ“ระบาดเล็กน้อยให้ตัดส่วนที่ถูกทำลายทิ้ง
  2. เมื่อพบ “เพลี้ยไฟ”ระบาดรุนแรง ใช้สารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัด เช่น อิมิดาโคลพริด 10% SL อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ ฟิโพรนิล 5% SC อัตรา 10 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นเมื่อพบเพลี้ยไฟเฉลี่ยมากกว่า 1 ตัวต่อยอด ช่อหรือผล และไม่ควรใช้สารฆ่าแมลงชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำติดต่อกันหลายครั้ง เพราะทำให้ “เพลี้ยไฟ” สร้างความต้านทานได้