ไทย-เวียดนาม ร่วมผลักดันฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมของทั้งสองประเทศ หารือเต็มคณะความร่วมมือด้านการเกษตร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าปศุสัตว์

ไทย-เวียดนาม จับมือร่วมผลักดันฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมของทั้งสองประเทศและภูมิภาค อำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งการนำเข้า ส่งออก และการนำผ่านสินค้าไปประเทศที่สาม โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และสินค้าปศุสัตว์ พร้อมส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่อขยายตลาดในอาเซียน และร่วมกันแก้ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยและอาหารสัตว์

วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้การต้อนรับ นายเหวียน ซวน ฟุก (H.E. Mr. Nguyen Xuan Phuc) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของรัฐบาล โดยนายกฯ นำตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ

651100003782
ไทย-เวียดนาม จับมือความร่วมมือด้านการเกษตร

จากนั้นได้หารือข้อราชการแบบเต็มคณะ ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร คือ ไทยและเวียดนามเห็นพ้องที่จะผลักดันความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจสังคมของทั้งสองประเทศและภูมิภาค และทั้งสองฝ่ายจะเร่งอำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ทั้งการนำเข้า ส่งออก และการนำผ่านสินค้าไปประเทศที่สาม โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ได้แก่ มะม่วงและเงาะจากไทย และสินค้าปศุสัตว์ ได้แก่ลูกไก่และไข่ฟักพ่อแม่พันธุ์จากไทย นอกจากนี้ ฝ่ายไทยยังขอให้ทั้งสองประเทศส่งเสริมการผลิตข้าวเพื่อขยายตลาดในอาเซียน และเตรียมความพร้อมร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนปุ๋ยและอาหารสัตว์

315741474 568537328611180 3481058770901616930 n
ไทย-เวียดนาม จับมือความร่วมมือด้านการเกษตร

ทั้งนี้ การค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยและเวียดนาม ในช่วงปี 2562 – 2564 ไทยมีสัดส่วนการส่งออกไปเวียดนามร้อยละ 4.42 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรไประดับโลก คิดเป็นมูลค่าการส่งออกเฉลี่ยปีละ 56,310 ล้านบาทโดยมีอัตราการส่งออกลดลงเฉลี่ยร้อยละ 12.36 ต่อปี

สินค้าเกษตรส่งออกจากไทยไปยังเวียดนามที่สำคัญ ได้แก่ นมยูเอชทีและนมถั่วเหลือง ทุเรียน น้ำตาล สุกรมีชีวิต อาหารปรุงแต่ง เช่น เต้าหู้ แอลกอฮอล์ผง และครีมเทียม ในขณะเดียวกันในช่วงปี 2562 – 2564 ไทยมีสัดส่วนการนำเข้าจากเวียดนามร้อยละ 4.51 ของมูลค่าการนำเข้าสินค้าเกษตรจากโลกคิดเป็นมูลค่าการนำเข้าเฉลี่ยปีละ 23,967 ล้านบาท มีอัตราการนำเข้าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 7.06 ต่อปี สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เนื้อปลาแบบฟิลเลของปลาอื่น ๆ เช่น เนื้อปลาซูริมิสดหรือแช่เย็น กาแฟ อาหารปรุงแต่ง เช่น เต้าหู้แอลกอฮอล์ผง และครีมเทียม ผลไม้แช่แข็ง เช่น สับปะรด ทุเรียน ลำไย มังคุด ลิ้นจี่ และมะม่วง ปลาหมึกกระดองและปลาหมึกกล้วยแห้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความสัมพันธ์และความร่วมมือ ไทย-เวียดนาม ปัจจุบันอยู่ในระดับที่ดีมาก มีการแลกเปลี่ยน การเยือนในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง มีการไปมาหาสู่ระหว่างกันเพิ่มขึ้นรวมถึงในระดับท้องถิ่นจากการที่มีเส้นทางเชื่อมโยงถึงกันค่อนข้างสะดวก

ที่ผ่านมา ไทย-เวียดนาม เห็นพ้องถึงความสำคัญในการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มั่นคงและความเข้าใจอันดีระหว่างกัน อันจะส่งผลต่อการพัฒนาและเสถียรภาพของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป

เวียดนามเป็นพันธมิตรที่มีความสำคัญของไทยในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากับประเทศเวียดนามจึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นสำหรับประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นประเทศคู่ค้าและตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนามในอาเซียน และอยู่ในลำดับที่ 9 ของการจัดลำดับการลงทุนจากต่างชาติในเวียดนาม