นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า ในปีงบประมาณ 2566 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตร ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรอย่างไม่หยุดยั้ง พร้อมเดินเคียงข้างไปกับเกษตรกร โดยเน้นหลักตลาดนำการผลิต และนำนวัตกรรม เทคโนโลยี มาปฏิรูปภาคการเกษตรสู่ยุคดิจิทัลมากยิ่งขึ้น สอดรับกับนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใน 5 ประเด็นยุทธศาสตร์ และนโยบายสำคัญ 15 เรื่อง ข้อ 2 การสร้างความเข้มแข็งให้สถาบันเกษตรกรและเศรษฐกิจฐานราก และ ข้อ 3 การส่งเสริมสถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และStart Up รวมทั้งกรอบ “9 ความท้าทาย ก้าวต่อไป ของนักส่งเสริมการเกษตร”
ซึ่งการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชมุชนนับเป็นภารกิจที่สำคัญของกรมส่งเสริมการเกษตร ในฐานะที่เป็นฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ให้การสนับสนุนการจัดตั้งการประกอบการ การตลาด ความสัมพันธ์และความร่วมมือกันระหว่างเครือข่าย หรือภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายและสร้างความมั่นคงให้แก่กิจการวิสาหกิจชุมชนโดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้วิสาหกิจชุมชนมีการพัฒนากิจการอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นผู้ประกอบการที่เข้มแข็ง และสามารถประกอบกิจการได้อย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า กรมส่งเสริมการเกษตร ขอแจ้งเตือนให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน มาต่อทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอที่จดทะเบียนฯ ระหว่างวันที่ 1 -30 มกราคม2566 เพื่อรักษาสิทธิในการได้รับการสนับสนุนและบริการจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
โดยขอให้วิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ที่จะมาขอต่อทะเบียนฯ เตรียมเอกสารประกอบการขอต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ประจำปี 2566 ประกอบด้วย
1) หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียน (ท.ว.ช. 2)
2) เอกสารสำคัญแสดงการดำเนินกิจการ (ท.ว.ช. 3)
3) บัตรประชาชนของผู้ยื่นแบบ
4) หนังสือมอบอำนาจให้ทำการแทนวิสาหกิจชุมชน/เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
5) บันทึกแจ้งความ (กรณี ท.ว.ช. 2 / ท.ว.ช. 3 สูญหาย)
6) ข้อบังคับ หรือข้อตกลงร่วมกันของสมาชิก
7) แผนประกอบการ
8) ผลการดำเนินงาน
ทั้งนี้ ขอให้กรอกข้อมูลรายละเอียดให้เรียบร้อย พร้อมจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วน ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนสามารถศึกษาวิธีการและดาวน์โหลดเอกสารต่าง ๆ ได้ที่www.sceb.doae.go.th/ext66.html และนำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอที่ได้ขอจดทะเบียนฯ ไว้ เพื่อตรวจเช็คความเรียบร้อยและดำเนินการต่อทะเบียนฯ ได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ วิสาหกิจชุมชนต้องต่อทะเบียนหลังสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี สำหรับปี 2566 กรมส่งเสริมการเกษตร จะเปิดให้บริการต่อทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน ระหว่างวันที่ 1 -30 มกราคม 2566
ซึ่งหากวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนไม่มาต่อทะเบียนเป็นระยะเวลา 2 ปีติดต่อกัน จะถูกเพิกถอนทะเบียนวิสาหกิจชุมชนและเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน และหมดสิทธิ์รับการส่งเสริมและสนับสนุนหรือบริการจากภาครัฐ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสากิจชุมชน พ.ศ.2548 มาตรา 8 เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนมีการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการประกอบกิจการ รวมทั้งกรมส่งเสริมการเกษตรจะมีข้อมูลสำหรับดำเนินการส่งเสริมกิจการของวิสาหกิจชุมชนในด้านต่างๆ ที่ชัดเจนต่อไป
