นายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า หลังจากกรมการจัดหางาน เปิดให้คนไทยที่ต้องการไปทำงานเกาหลีใต้ตอบแบบสำรวจความต้องการไปทำงานเกษตรตามฤดูกาล ณ สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อสำรวจจำนวนความต้องการไปทำงานความถนัดด้านงานเกษตรและภูมิลำเนานั้น
ปรากฏว่าได้มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีนำภาพประชาสัมพันธ์ การตอบแบบสำรวจของกรมการจัดหางาน มาดัดแปลงแก้ไข QR Code เพื่อหลอกลวงให้ผู้ตอบแบบสำรวจกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น
ดังนั้นเพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงขอข้อมูลส่วนบุคคล ขอให้ผู้ที่ต้องการไปทำงานภาคเกษตรตามฤดูกาลเกาหลีใต้ แจ้งความต้องการผ่านเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas เท่านั้น โดยสามารถแสกน QR Code ที่แบนเนอร์ “แบบสำรวจเกษตรกรที่ประสงค์ไปทำงานเกษตรตามฤดูกาล ณ สาธารณรัฐเกาหลี” ตั้งแต่บัดนี้ถึง 28 ก.พ. 66
ทั้งนี้ กรมการจัดหางานขอย้ำว่า การแจ้งความต้องการครั้งนี้ เป็นเพียงการสำรวจความต้องการเท่านั้น โปรดอย่าหลงเชื่อผู้แอบอ้างว่าสามารถดำเนินการใด ๆ เพื่อช่วยให้ท่านได้รับการคัดเลือก เพราะอาจถูกหลอกลวงให้เสียทรัพย์ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารจากกรมการจัดหางานได้ที่เว็บไซต์ doe.go.th หรือเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร. 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 245 6706
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 แผนกวีซ่าและการควบคุมพำนักของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกระทรวงยุติธรรม สาธารณรัฐเกาหลี ได้แจ้งมาตรการที่ได้รับการปรับปรุงและแจ้งเวียนให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทราบ ซึ่งกำหนดเงื่อนไขสำคัญที่จำเป็นต้องระบุใน MOU คือต้องมีการระบุจังหวัดที่จะดำเนินการคัดเลือกและจัดส่งแรงงาน กรมการจัดหางานของไทย จึงเปิดแบบสำรวจให้แรงงานไทยที่ต้องการไปทำงานเกษตรตามฤดูกาล ณ สาธารณรัฐเกาหลี แจ้งความต้องการผ่านเว็บไซต์กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ doe.go.th/overseas ได้จนถึง 28 ก.พ. 66 เพื่อสำรวจจำนวนความต้องการไปทำงาน ความถนัดด้านงานเกษตร และภูมิลำเนา โดยคุณสมบัติเบื้องต้น ต้องมีสัญชาติไทย อายุระหว่าง 25 – 50 ปี และมีการขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรหรือมีประสบการณ์งานเกษตร 1 ปีขึ้นไป
สำหรับแรงงานไทยในเกาหลีใต้ภาคงานเกษตร นับว่าเป็นความใฝ่ฝันของแรงงานไทยหลาย ๆ คน ที่อยากไปทำงานต่างแดนเพื่อให้มีเงินเก็บออมส่งเงินมาใช้ในประเทศไทย หนึ่งในประเทศที่แรงงานไทยเดินทางไปทำงานกันมาก คือ เกาหลีใต้ ที่มีแรงงานจำนวนมากเป็นอันดับสองรองจากแรงงานจีน ส่วนใหญ่ทำงานเกี่ยวกับเกษตรกรรม การเพาะปลูกต่าง ๆ อาทิ ข้าวเจ้า ข้าวบาร์เลย์ แอปเปิล มันฝรั่ง ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ธัญพืช ผัก ผลไม้ ฯลฯ ในประเทศเกาหลีใต้นั้นเป็นประเทศในเขตหนาวซึ่งจะมีฤดูทำการเกษตรอยู่เพียง 4-5 เดือนผลผลิตส่วนใหญ่ก็จะแปรรูปเก็บรักษาในรูปแบบของการทำน้ำหมักดองหรือการปลูกในโรงเรือน วิธีการปลูกจะปลูกในโรงเรือนคลุมพลาสติกเพื่อให้ดินอุ่น ซึ่งการทำการเกษตรของเกาหลีใต้ใช้เทคโนโลยีและการพัฒนาด้านเกษตรมากกว่าประเทศไทย
สำหรับการไปทำงานตามฤดูกาลภาคเกษตร เป็นโควตาการไปทำงานเกษตรระยะสั้นไม่มีการกำหนดโควตารายปี ขึ้นอยู่กับความต้องการของท้องถิ่นในเกาหลีใต้ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของแรงงานไทย เพราะการจัดส่งตามโควตารายปี จะต้องผ่านการทดสอบ ต้องมีทักษะด้านภาษา ถึงลักลอบไปทำงานมาก แต่การไปทำงานภาคเกษตรระยะสั้นไม่ต้องสอบจึงง่ายกว่า นอกจากจะช่วยเพิ่มการจ้างแรงงานไทย ช่วยลดปัญหาการว่างงานในประเทศ ยังช่วยลดการลักลอบเข้าไปทำงานที่เกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายหรือผีน้อย และไม่ต้องกังวลว่าคนที่ส่งไปทำงานจะไม่กลับ เพราะต้องมีเกณฑ์พิจารณาคัดเลือก หรือต้องมีหลักประกันในการไปทำงานเพื่อป้องกันการหลบหนีนายจ้าง