กระทรวงสาธารณสุข ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อฝีดาษวานร ที่มาต่อเครื่องบิน (ทรานซิท) ในประเทศไทย และไม่มีอาการ รวมทั้งไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับใคร มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอด เบื้องต้นระบุว่า ผู้สัมผัสใกล้ชิดยังไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง
นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคฝีดาษลิง (Monkeypox) พบผู้ป่วยยืนยัน 1 รายมีประวัติเดินทางมาเปลี่ยนเครื่องในสนามบินในไทย 2 ชั่วโมงเพื่อเดินทางต่อไปประเทศออสเตรเลีย ทำให้มีผู้สัมผัสเสี่ยง 12 ราย เป็นผู้โดยสารและลูกเรือในสายการบิน ซึ่งอยู่ในระหว่างการติดตามอาการ เบื้องต้น ทั้ง 12 ราย ยังไม่มีอาการ
ทั้งนี้ ระหว่างต่อเครื่องยังไม่มีอาการป่วย จึงถือว่าผู้สัมผัสใกล้ชิด ไม่ใช่กลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง เพราะตอนใกล้ชิดยังไม่ได้ป่วย จึงไม่เข้าเกณฑ์ผู้ป่วยสงสัย แต่เรายังต้องติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด คือผู้โดยสารเครื่องบิน ลูกเรือ รวม 12 คน ตอนนี้ผ่านมา 7 วันแล้ว ยังไม่พบผู้ที่มีอาการ เราจึงต้องติดตามให้ครบ 21 วัน
ขณะที่มีการรายงานข้อมูลผู้ป่วยเข้าข่ายอาการ 5 ราย ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวไอซ์แลนด์ 3 ราย ที่เป็นพี่น้อง โดยเดินทางเข้าไทยเพื่อมาเรียนมวยไทยที่ จ.ภูเก็ต และพบว่าทั้ง 3 คน มีอาการเข้าข่ายเป็นโรคฝีดาษลิง มีตุ่มนูนใส ตามลำตัว แต่เมื่อนำไปตรวจด้วยวิธี RT-PCR จาก 2 ห้องปฏิบัติการ คือ ของกรมวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ และศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิกโรงพยาบาลจุฬาฯ พบผลยืนยันว่า เป็นโรคเริมเท่านั้น
หลังการสอบสวนโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) ทำให้มีผู้ป่วยเข้าข่ายอีก 2 รายที่ใช้บริการยิมกับผู้ป่วย 3 รายแรก จากการใช้อุปกรณ์ในยิมร่วมกัน โดยผลตรวจจากห้องแล็บ ก็เป็นโรคเริมเช่นกัน จากกรณีดังกล่าวทำให้มีผู้สัมผัสใกล้ชิด 20 ราย เป็นผู้สอน และคนที่เข้ามาเล่นในยิม เบื้องต้นผู้ป่วยทั้ง 5 ราย เข้ารับการรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร
ขณะนี้มีการรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคฝีดาษลิง ใน 32 ประเทศ ซึ่งมีรายงานยอดผู้ป่วยทั้งหมด 406 รายและผู้ต้องสงสัยเข้าข่าย 88 ราย ประเทศที่พบการระบาดหนัก 5 ประเทศ นอกทวีปแอฟฟริกา คือ อังกฤษ,เยอรมัน ,สเปน ,โปรตุเกส และแคนนาดา ยืนยันขณะนี้ยังไม่พบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงในไทย