ยอดใช้ ”น้ำมันเชื้อเพลิง” ของไทยในรอบ4เดือน(ปี2565) ขยายตัวกว่า 11%

กรมธุรกิจพลังงานเผยยอดการใช้น้ำมัน 4 เดือนแรกปี 2565 ขยายตัว 11.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยน้ำมันดีเซลยอดใช้ 77 ล้านลิตร/วัน ส่วนกลุ่มเบนซินลดลง 3.9% มูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาร้อยละ 96.5

นางสาว นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 11.2 เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์(Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.8 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.2   LPG เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.3 น้ำมันก๊าดเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.0 ขณะที่การใช้ NGV ทรงตัวในระดับเดิม อย่างไรก็ตาม การใช้กลุ่มเบนซินลดลงร้อยละ 3.9 เนื่องจากราคาที่อยู่ในระดับสูง 

3D626DB8 EE9E 4B00 81FC C44593C20CE3

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 29.60 ล้านลิตร/วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (ลดลง ร้อยละ 3.9) เนื่องจากราคาที่อยู่ในระดับสูง การใช้แก๊สโซฮอล์ 91 แก๊สโซฮอล์95 แก๊สโซฮอล์ อี20 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.93 ล้านลิตร/วัน 15.37 ล้านลิตร/วัน 5.74 ล้านลิตร/วันและ 0.57 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ อี85 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.99 ล้านลิตร/วัน

72A0E01D E60D 45DB 8388 B843F31A2ACE

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 77.28 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.7) สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66.65 ล้านลิตร/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 68.0) น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ซึ่งเริ่มจำหน่ายตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2562 ปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 3.39 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 มีปริมาณการใช้ 0.21 ล้านลิตร/วัน การใช้ที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น และมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาให้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เฉลี่ยอยู่ที่ 7.22 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 48.8) เนื่องจากการผ่อนคลายมาตรการการบินและการเดินทางเข้า-ออกประเทศโดยมาตรการ Test & Go ได้เปิดลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 หลังจากระงับตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2564 โดยกำหนดให้ตรวจ COVID-19 ด้วยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง และต้องมีหลักฐานการจองโรงแรมที่พัก 

นอกจากนี้ มาตรการ Test & Go เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม2565 ได้เปลี่ยนการตรวจหาเชื้อจากวิธี RT-PCR เป็น ATK และไม่ต้องจองโรงแรมในการตรวจครั้งที่ 2 พร้อมทั้งลดวงเงินประกันเป็นไม่ต่ำกว่า 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ เพื่อหนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบยกเลิกการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้เดินทางเข้าไทยที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมทั้งปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางเป็น 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ศบค. ยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่ตามสถานการณ์  การระบาด เหลือพื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2565

693CE61B BC16 4D6C 9A9D 609E789ABFBC

การใช้ LPG เฉลี่ยอยู่ที่ 17.77 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.3) เนื่องจากการใช้ในภาคปิโตรเคมีที่สูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.93 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.3) ภาคขนส่งที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.01 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.8) และภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.02 ล้านกก./วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.1) สำหรับการใช้ในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 5.80 ล้านกก./วัน(เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.0)

การใช้ NGV เฉลี่ยอยู่ที่ 3.29 ล้านกก./วัน ทรงตัวอยู่ในระดับเดิม (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 0.01) โดย ปตท. ขยายระยะเวลาการคงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และราคาขายปลีก NGV สำหรับรถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเคยได้รับสิทธิผ่านมาตรการ NGV เพื่อลมหายใจเดียวกันที่ 13.62 บาทต่อกิโลกรัม จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงาน และการแพร่ระบาดของ COVID-19

4B40C49D 4356 40F3 A1EE 0A296D37D9F4

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เฉลี่ยอยู่ที่ 1,018,628 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 11.4) โดยการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 951,689 บาร์เรล/วัน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.1) สอดคล้องกับความต้องการใช้ในประเทศที่สูงขึ้น 

โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 96,646 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 96.5) มูลค่าการนำเข้าที่สูงขึ้นนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมาของปี 2565 สำหรับการนำเข้า น้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66,938 บาร์เรล/วัน คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 5,801 ล้านบาท/เดือน

79681304 9617 4C5D 89A4 41D17AAF19C9

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม – เมษายน 2565 เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลน้ำมันเตาน้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกลดลงมาอยู่ที่ 155,522 บาร์เรล/วัน(ลดลง ร้อยละ 8.6) คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 17,464 ล้านบาท/เดือน (เพิ่มขึ้น ร้อยละ 70.2)

ขอบคุณข้อมูล จาก : กระทรวงพลังงาน