เกษตรฯกำหนดเงื่อนไขนำเข้าเมล็ดกัญชง-กัญชา-กระท่อม รับปลดล็อค 9 มิ.ย.นี้

กระทรวงเกษตรฯ ออกประกาศกระทรวงฯ กำหนดเงื่อนไขนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชง-กัญชา-กระท่อม รับปลดล็อค 9 มิ.ย.นี้ หนุนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

นางสาว มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงวันนี้ (7 มิ.ย.65) ว่า สืบเนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข ได้เตรียมประกาศปลดล็อคทุกส่วนของกัญชา กัญชง ไม่ใช่ยาเสพติดประเภท 5 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ซึ่งทำให้ประชาชนสามารถปลูกกัญชา กัญชง กระท่อม เพื่อใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพเบื้องต้นได้อย่างถูกกฎหมาย 

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้ออกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดพืช จากแหล่งที่กำหนดเป็นสิ่งต้องห้าม ข้อยกเว้น และเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 (ฉบับที่ 11) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 เพื่อสนับสนุนการปลดล็อคและอำนวยความสะดวกการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชงและกระท่อม เพื่อขับเคลื่อนนโยบายให้พืชทั้งสามชนิดเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ให้ประชาชนทุกระดับ 

ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร จะมีการออกประกาศกรมวิชาการเกษตรเพื่อรองรับการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ของพืชทั้งสามชนิด เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามขอย้ำว่า ทั้งหมดจะต้องไม่เป็นพืชที่มีการตัดต่อพันธุกรรม (GMO) ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับทุกฝ่าย โดยจะมีการตั้งศูนย์ ONE Stop Service ที่ กรมวิชาการเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อเป็นช่องทางสื่อสารองค์ความรู้ของพืชทั้งสามชนิดให้กับประชาชน

E872ACB0 BD88 447B 9856 30D23505A82E

นาย ระพีภัทร์ จันทร์ศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ภายหลังที่ปลดล็อคพืชทั้ง 3 ชนิดไม่ใช่ยาเสพติด มีผลให้ทั้ง 3 ชนิดนี้อยู่ในการควบคุมของกรมวิชาการเกษตรเหมือนพืชทั่วไป แต่ยังต้องมีเงื่อนไขบางประการในการควบคุมการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ ศัตรูพืช และโรคพืช ดังนั้นกรมวิชาการเกษตรจึงได้ออกประกาศ 2 ฉบับ ได้แก่

 1. ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชา กัญชง พ.ศ. 2565 

 2. ประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าเมล็ดพันธุ์กระท่อม พ.ศ. 2565 กำหนดให้ประชาชนสามารถนำเข้าเมล็ดพันธุ์ของพืชทั้ง 3 ชนิด ได้จากทุกประเทศ โดยประเทศต้นทางต้องแนบใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phyto Certificate: PC) และใบรับรองว่าไม่ใช่พืชที่มีการตัดต่อพันธุกรรม (GMO) กำกับมาด้วย 

3EE9E2C1 513F 427D 8D50 3BADF1E68A90

และเนื่องจากเมล็ดพันธุ์กัญชง กัญชา และกระท่อม เป็นพืชที่มีราคาสูง กรมวิชาการเกษตรจึงจะไม่มีการเก็บเมล็ดตัวอย่าง มาสุ่มตรวจอัตราการงอก จำนวน 400 เมล็ด จากแนวปฏิบัติเดิมของพืชชนิดอื่น ซึ่งจะเป็นต้นทุนของทุกภาคส่วน แต่กรมฯจะติดตามและตรวจสอบที่แปลงปลูกหรือแหล่งเพาะพันธุ์จำหน่าย ว่า เมล็ดมีการงอกตามที่มีการกล่าวอ้างหรือไม่ ซึ่งเป็นไปตาม พรบ.พันธุ์พืชหากพบว่าไม่เป็นไปตามกล่าวอ้าง หรือพบโรคพืช แมลงศัตรูพืช กรมฯ จะสั่งให้มีการทำลายได้ทันที ทั้งนี้แปลงที่จะมีการเพาะจำหน่ายจะต้องขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร หรือสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

8E0E7900 C35A 4D9B 8BF5 8DF820430E1B

และเนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ ดังนั้นขอฝากประชาชน ว่ากรณีเป็นผู้นำเข้าหรือประสงค์จะเป็นผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ในประเทศ ขอให้มาขึ้นทะเบียนเป็นผู้จำหน่าย หรือผู้รวบรวมที่กรมวิชาการเกษตร ผ่านเว็บไซต์ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งหากเอกสารขออนุญาตครบตามที่กรมแจ้งไว้ในระบบ อาทิ ใบอนุญาตนำเข้าจากกรมวิชาการเกษตร และใบรับรองสุขอนามัยพืช แสดงถึงการปลอดโรคพืช แมลงศัตรูพืช ปลอด GMO จากประเทศต้นทาง เป็นต้น

38620484 DD78 4775 9032 0DE6F02CB572

โดยกรมฯ สามารถอนุญาตได้ภายใน 1 วันทำการ และสำหรับผู้ประสงค์ที่จะเป็นผู้จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ไทย สามารถขออนุญาตเป็นผู้รวบรวมและจำหน่ายได้ที่กรมวิชาการเกษตร ผ่านเว็บไซต์กรมฯ ได้เช่นกัน

8002E507 D0B4 44B4 A805 FDB9196ED916

โดยจะต้องเป็นการจำหน่ายพันธุ์ที่มีการรับรองถูกต้องของกรมวิชาการเกษตร ดังนั้น ขอเชิญชวน นักวิจัย นักพัฒนา นักปรับปรุงพันธุ์ของกัญชงกัญชา มาขึ้นทะเบียนเพื่อขอการรับรองพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตร สำหรับประชาชนผู้บริโภคที่ต้องการจะซื้อเมล็ดพันธุ์เพื่อนำไปปลูกทั้งในครัวเรือน หรือเชิงพาณิชย์ ก็ขอให้เลือกซื้อจากร้านค้า ร้านจำหน่ายที่มีใบอนุญาตถูกต้องจากกรมวิชาการเกษตร โดยแต่ละร้านจะต้องมีใบอนุญาตติดแสดงไว้ที่ร้านค้าให้เห็นหรือกรณีซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ ก็ขอให้เลือกซื้อจากร้านที่มีการสำแดงใบอนุญาตที่ถูกต้อง เพื่อรักษาประโยชน์ของตัวเอง

ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร จะมีการตั้งศูนย์ ONE Stop Service ที่ ตึกกสิกรรม กรมวิชาการเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ สายด่วน(hotline) 1174.