กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำว่า ปัจจุบัน (30 พ.ย. 66) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 61,309 ล้าน ลบ.ม. (80% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) เป็นน้ำใช้การได้ 37,368 ล้าน ลบ.ม. (71% ของความจุอ่างฯรวมกัน) เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 18,399 ล้าน ลบ.ม. (74% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ปริมาณน้ำใช้การได้ 11,703 ล้าน ลบ.ม. (64% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) จนถึงขณะนี้มีการจัดสรรน้ำในช่วงฤดูแล้งปี 2566/67 ทั้งประเทศไปแล้วกว่า 3,162 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 15% ของแผนฯ เฉพาะลุ่มเจ้าพระยามีการใช้น้ำไปแล้วประมาณ 557 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 10% ของแผนฯ
ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้โครงการชลประทานในพื้นที่ พิจารณาวางแผนจัดสรรน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำที่มีอยู่ เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำทุกกิจกรรม โดยเฉพาะน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ระบบนิเวศ และการเกษตร ด้านสถานการณ์อุทกภัยทางพื้นที่ภาคใต้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่ายังคงมีปริมาณฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ได้ให้สำนักงานชลประทานพื้นที่ภาคใต้ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ อาทิ เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถบรรทุกน้ำ ประจำพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ให้สามารถนำไปช่วยเหลือได้ทันที หากประชาชนหรือหน่วยงานใดต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460