“อลงกรณ์”ลุยโรงงานต่างด้าวอิทธิพลสั่งลงดาบซ้ำมอบกรมชลประทานดำเนินคดี พร้อมชื่นชมผู้ว่าเพชรบุรีสนธิกำลังปิดโรงงานลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองชลประทานก่อมลพิษกลิ่นเหม็นเน่าสร้างความเดือดร้อนชุมชน
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้(30 ม.ค.)ว่าได้มอบหมายให้กรมชลประทานพิจารณาแจ้งความดำเนินคดีโรงงานต่างด้าวอิทธิพลที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองชลประทานที่บ้านนาขลู่หมู่1ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรีซึ่งเข้าข่ายการกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติการชลประทานหลวง ที่บัญญัติ “ห้ามมิให้ผู้ใดปล่อยน้ำซึ่งทำให้เกิดเป็นพิษแก่น้ำตามธรรมชาติหรือสารเคมีเป็นพิษลงในทางน้ำชลประทานจนอาจทำให้น้ำในคลองชลประทานเป็นอันตรายแก่เกษตรกรรม การบริโภค อุปโภคหรือสุขภาพอนามัยของประชาชน”พร้อมกับให้โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีขุดลอกตะกอนน้ำเสียออกจากคลองเพื่อไม่ให้น้ำเสียที่ขังในคลองส่งกลิ่นเหม็นในบริเวณชุมชนใกล้เคียง
นายอลงกรณ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่17 มกราคมที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากผู้ใหญ่บ้านสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและประชาชน หมู่1ต.นาพันสามระหว่างลงพื้นที่ขับเคลื่อนโครงการเกษตรกรรมยั่งยืน ที่ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน ต.นาพันสาม อ.เมืองจ.เพชรบุรี กรณีที่มีโรงงานทำขนมลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองชลประทานส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงมาเป็นเวลานานสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนและชุมชนโดยรอบตนจึงเดินทางไปตรวจสอบพบว่า มีการลักลอบปล่อยน้ำเสียจากโรงงานทำขนมหวานลงคลองชลประทาน 3 ขวา 1 ซ้าย สายใหญ่ 3 เป็นระยะทางยาวนับร้อยเมตรส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรงและเมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในโรงงานพบว่ามีสายยางวางจากบ่อพาดข้ามกำแพงโรงงานปล่อยลงคลองส่งน้ำของชลประทานนอกจากนี้ยังพบคนงานเป็นต่างด้าวหลายรายจึงได้ติดต่อให้เจ้าของมาพบซึ่งได้รับแจ้งว่าไม่อยู่ แต่พบว่ามีหญิงชาวกัมพูชาแจ้งว่าเป็นภรรยาเจ้าของจึงสอบถามว่าทำไมถึงลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองส่งน้ำของชลประทานซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหญิงชาวกัมพูชาให้เหตุผลว่าพยายามแก้ไขแต่ทำไม่ได้ ตนจึงแจ้งว่าถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ต้องปิดโรงงานและจะดำเนินคดีพร้อมกับได้โทรศัพท์แจ้งให้นายณัฏฐชัย นำพูลสุขสันติ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีและนายสันต์ จรเจริญ ผู้อำนวยโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี(ผคบ.เพชรบุรี)รับทราบเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ต่อมาวันรุ่งขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรีสั่งการให้นายอำเภอเมือง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบโรงงานและให้ผู้กระทำผิดเซ็นหนังสือยินยอมปิดกิจการกับทางตำรวจไว้เป็นหลักฐานทั้งนี้ยังพบว่าลูกจ้างที่ทำขนมหวานเป็นแรงงานต่างด้าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวไปทั้งหมด
“ชาวบ้านบ้านนาขลู่บอกว่าโรงงานนี้ก่อความเดือดร้อนมานานมีหลายคณะมาตรวจสอบแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ โดยชาวบ้านระบุว่าโรงงานนี้มีผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นหนุนหลัง เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีจะสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดต่อไปการประกอบการทุกชนิดจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนและประชาชน โดยเฉพาะการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองชลประทานมีความผิดตามกฎหมายทั้งจำและปรับ จึงขอความร่วมมือทุกฝ่ายช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ขอขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ท่านผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรีและหน่วยงานอื่นๆโดยเฉพาะผู้ใหญ่บ้านและสมาชิกอบต.หมู่1บ้านนาขลู่ที่ร่วมดำเนินการจัดการปัญหานี้อย่างรวดเร็ว”นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด