กรมชลประทาน สั่งโครงการชลประทานตลอดริมแม่น้ำโขง เฝ้าระวังระดับน้ำอาจจะเพิ่มสูงขึ้น หลังกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) ออกประกาศ ฉบับที่ 15/2565 เรื่อง “แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน” อีกระลอก ในช่วงวันที่ 25-26 พฤษภาคมนี้
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามประกาศของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติฉบับที่ 15/2565 เรื่อง “แจ้งเตือนระดับน้ำในแม่น้ำโขงเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน” เนื่องจากในพื้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) มีฝนตกหนัก วัดปริมาณฝนสะสมได้มากถึง 250 มิลลิเมตร ส่งผลให้เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 65 เขื่อนน้ำอู สปป.ลาว มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น และได้เพิ่มการระบายน้ำจาก 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่บริเวณสถานีหลวงพระบาง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้คาดการณ์มวลน้ำหลากจะไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรี สปป.ลาว ในเกณฑ์ประมาณ 6,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลกระทบให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงด้านท้ายเขื่อนไซยะบุรี ตั้งแต่บริเวณอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร และอำเภอโขงเจียมจังหวัดอุบลราชธานี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร ในช่วงวันที่ 25 – 26 พฤษภาคม2565
กรมชลประทาน ได้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบต่อพื้นที่ ในเขตสำนักงานชลประทานที่ 5 และ 7 ที่มีพื้นที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขง โดยให้ทุกโครงการชลประทานในพื้นที่ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และแจ้งเตือนล่วงหน้า
โดยให้ประชาชนและเกษตรกรที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำโขง ได้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ พร้อมทั้งพิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำ/แม่น้ำสายต่างๆ ให้สอดคล้องกับระดับน้ำในแม่น้ำโขง ตลอดจนเตรียมแผนรับสถานการณ์ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นสูงขึ้น ทั้งทางด้านบุคลากร เครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ เพื่อบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากประชาชนต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้านหรือโทร.สายด่วนกรมชลประทาน 1460