รมต.พลังงานฯของประเทศลาว เร่งผลักดันกฎหมายหนุน”ความปลอดภัยเขื่อน” เพื่อพัฒนาสู่ความยั่งยืนในอนาคต
ดาววง พอนแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ลาว ระบุว่า ลาวจำเป็นต้องออกกฎหมายเฉพาะ เพื่อรับรองความปลอดภัยของเขื่อน อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามบรรลุการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืนของรัฐบาลลาว
ดาววง กล่าวระหว่างการแถลงต่อสภาแห่งชาติลาวเมื่อวันพฤหัสบดี (9 มิ.ย.) ว่า ลาวมีกฎระเบียบและแนวปฏิบัติในการก่อสร้างและดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ แต่ไม่มีกฎหมายเกี่ยวข้องกับมาตรการความปลอดภัยโดยเฉพาะ
วันศุกร์ (10 มิ.ย.) หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ ไทม์ส อ้างอิงดาววง ระบุว่า การขาดแคลนกฎหมายเกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยของเขื่อน เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบเขื่อน ที่เป็นมาตรฐานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ พร้อมเสริมว่ากระบวนการตรวจสอบที่ไม่เพียงพอและไม่มีประสิทธิภาพนั้นมีความเสี่ยงและปัญหานี้ควรได้รับการแก้ไข
ดาววงกล่าวว่าการพัฒนาทุกด้านซึ่งรวมถึงการสร้างเขื่อน จำเป็นต้องได้รับการกำกับดูแลที่ดีขึ้นผ่านการบังคับใช้กฎหมายอันเข้มงวด ขณะกำลังการผลิตที่มากขึ้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ควบคู่กับความปลอดภัยและการตรวจสอบเขื่อน
กระทรวงฯ พยายามส่งเสริมการจัดการความปลอดภัยเพื่อรับรองการพัฒนาพลังงานน้ำอย่างยั่งยืน หลังเกิดเหตุเขื่อนพังถล่มในแขวงอัตตะปือทางตอนใต้ประเทศเมื่อปี 2018
เหตุเขื่อนพังถล่มที่โรงงานไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน-เซน้ำน้อย ซึ่งอยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 560 กิโลเมตร ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและพัดพาหมู่บ้านท้ายน้ำ 5 แห่ง ทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยมากกว่า 4,000 คน ขณะชาวบ้านในหมู่บ้านอื่นอีกหลายแห่งต่างได้รับผลกระทบเช่นกัน
ปัจจุบันลาวมีโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ 78 แห่ง พร้อมกำลังการผลิตรวม 9,972 เมกะวัตต์ และลาวกำลังตรวจสอบเขื่อนที่มีอยู่เดิมและก่อสร้างเขื่อนเพิ่มหลายแห่ง ภายใต้คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ ซึ่งมีส่วนทำให้ลาวกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกองค์การเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) ที่ปัจจุบัน มีตัวแทนสมาชิกจาก 104 ประเทศ โดยสมาคมเขื่อนลาว (Lao Association on Dams) ได้รับการยอมรับให้เป็นสมาชิกองค์การฯ อย่างเป็นทางการแล้ว
ทั้งนี้ ลาวกำลังสร้างเขื่อนหลายแห่งในแม่น้ำหลายสาย โดยมีเป้าหมายสร้างเขื่อนให้ครบ 100 แห่งภายในปี 2030 และกำลังวางมาตรการและมาตรฐานความปลอดภัยของเขื่อน ขณะที่รัฐบาลลาว เดินหน้ายกระดับการผลิตพลังงาน เพื่อจัดจำหน่ายไฟฟ้าแก่ประเทศคู่ค้าต่อไป
ขอบคุณข้อมูล/ภาพ จาก : สำนักข่าวซินหัว (XinhuaThai)