ดันไทยทะยาน “Hub เมล็ดพันธุ์”ผนึกเอกชนร่วมตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ พร้อมยกระดับใบรับรอง “E-Phyto” 

กรมวิชาการเกษตร หนุนนโยบายรัฐบาลดันไทยเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ จับมือภาคเอกชนร่วมตรวจรับรองสุขภาพเมล็ดพันธุ์ส่งออกปลอดศัตรูพืช ช่วยเพิ่มช่องทางรับบริการ ลดระยะเวลา ทันต่อสถานการณ์ เสริมสร้างขีดความสามารถการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย พร้อมยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืชไทยเข้าระบบดิจิทัล

C622E551 161C 4632 A1FC 63C36BF28202

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำโครงการรับรองห้องปฏิบัติการตรวจสุขภาพเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนด้านการตรวจสอบศัตรูพืชของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก โดยให้ห้องปฏิบัติการภาคเอกชนที่ผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรสามารถดำเนินการตรวจศัตรูพืชเพื่อนำผลการตรวจมาใช้ประกอบการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชได้ ซึ่งช่วยเพิ่มช่องทางการให้บริการแก่ผู้ส่งออกภายใต้มาตรฐานและข้อกำหนดของกรมวิชาการเกษตร และช่วยลดระยะเวลาการตรวจสุขภาพของเมล็ดพันธุ์เพื่อการส่งออก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันสถานการณ์ ซึ่งส่งผลให้สามารถบริหารจัดการการส่งออกได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งเสริมนโยบายการเป็นศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ (Seed Hub) ของประเทศไทย  โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจรับรองห้องปฏิบัติการภาคเอกชนจำนวน 4 แห่ง คาดว่าเมื่อผ่านการรับรองจากกรมวิชาการเกษตรแล้วห้องปฏิบัติการทั้ง 4  แห่ง จะสามารถให้บริการแก่ผู้ส่งออกได้ประมาณเดือนมิถุนายน  2565

14543669 E4D4 4A0D 9FC3 91C291255BB6

นอกจากนี้ กรมวิชาการเกษตรยังได้ออกแบบและพัฒนาการขอใบรับรองสุขอนามัยพืชแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Phyto) ซึ่งช่วยยกระดับใบรับรองสุขอนามัยพืช (Phytosanitary Certificate) ของไทยเข้าสู่ระบบดิจิทัล เป็นที่ยอมรับในเวทีการค้าเมล็ดพันธุ์และการกำกับดูแลการเคลื่อนย้ายเมล็ดพันธุ์ระหว่างประเทศ  และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบการตรวจสอบศัตรูพืชของไทย ที่มีความชัดเจนรวดเร็ว ทันสถานการณ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่มีการแข่งขันทางการค้าสูง  ช่วยลดขั้นตอน ภาระงานและการผ่านพิธีการศุลกากรของสินค้าไทยทั้งที่ต้นทางและประเทศปลายทาง ส่งผลให้การค้าเมล็ดพันธุ์ของไทยมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น

A0CD6F7E 196B 4BFC BFBB 1190346720F1

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์ของประเทศไทยภายใต้นโยบายศูนย์กลางเมล็ดพันธุ์ กรมวิชาการเกษตรได้ร่วมกับ สมาคมการค้าเมล็ดพันธุ์ไทย สมาคมเมล็ดพันธุ์ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานAsian Seed Congress 2022 วันที่ 14–18 พฤศจิกายน 2565 เพื่อส่งเสริมการผลิตและการส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ไทยในเวทีการค้าระหว่างประเทศ  

F3E506D9 E727 4DA6 8331 FE59CBBD2141
76B3715B 82EA 4913 A074 4E1D5EC66145

และประชาสัมพันธ์เผยแพร่ภาพลักษณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการค้าเมล็ดพันธุ์ระดับโลก โดยภายในงานมีกิจกรรมสำคัญ ได้แก่ การแสดงผลงานของประเทศไทยในการส่งเสริมการผลิตและส่งออกเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงของไทย โดยกรมวิชาการเกษตร และสวทช. การแสดงสินค้าเมล็ดพันธุ์ของภาคเอกชนไทยและต่างประเทศ  และการเจรจาการค้าเมล็ดพันธุ์ระหว่างคู่ค้า  ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานจากอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ทั่วโลกมากกกว่า 500 ราย