ข้าวเหนียวที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยมีหลายสายพันธุ์ โดยแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีลักษณะ รสชาติ และพื้นที่ปลูกที่แตกต่างกันไป เช่น
ข้าวเหนียวเขี้ยวงู
* ลักษณะ: เมล็ดเล็ก เรียวยาว สีขาว เมื่อหุงสุกจะได้ข้าวนุ่ม เม็ดข้าวเรียงตัวสวย ไม่เละ มีกลิ่นหอมและสีขาวเลื่อมมัน
* รสชาติ: มีความเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับทำข้าวเหนียวมูน และขนมหวานต่างๆ
* พื้นที่ปลูก: นิยมปลูกมากทางภาคเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงราย
ข้าวเหนียว กข6
* ลักษณะ: เมล็ดเรียวยาว เมื่อหุงสุกจะเหนียวนุ่ม มีกลิ่นหอมและรสชาติดี ลำต้นแข็งแรง ทนทานต่อโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง
* รสชาติ: มีความนุ่มและมีกลิ่นหอม นิยมนำมาทำข้าวเหนียวมูน ข้าวเหนียวปั้น หรือใช้เป็นเครื่องเคียงกับอาหารคาวต่างๆ เช่น ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ข้าวเหนียวไก่ทอด และขนมหวาน
ข้าวเหนียวดำ (ข้าวก่ำ)
* ลักษณะ: เมล็ดสีแดงอมม่วงเข้มโดยธรรมชาติ
* รสชาติ: ไม่นิยมนำมาเป็นข้าวหลัก แต่มักถูกนำไปทำเป็นขนมหวาน เนื่องจากมีรสชาติเฉพาะตัวและมีคุณค่าทางสารอาหารสูง (เช่น ธาตุเหล็ก สารต้านอนุมูลอิสระ)
ข้าวเหนียวสันป่าตอง
* ลักษณะ: เป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง เมล็ดข้าวเปลือกสีน้ำตาล ยอดเมล็ดสีฟาง
* รสชาติ: (ข้อมูลรสชาติเฉพาะเจาะจงไม่ชัดเจน แต่เป็นข้าวเหนียวที่ได้รับความนิยม)
ข้าวเหนียวเขาวงกาฬสินธุ์
* ลักษณะ: ข้าวเปลือกเป็นสีน้ำตาล เมล็ดข้าวสารมีสีขาวนวล เมื่อนึ่งสุกจะมีความหอมและนุ่ม ไม่แฉะติดมือ ถึงแม้จะทิ้งไว้ให้เย็นก็ยังคงความอ่อนนุ่มอยู่
* รสชาติ: มีความหอมและนุ่มเป็นเอกลักษณ์
* พื้นที่ปลูก: ปลูกในพื้นที่อำเภอเขาวง และในบางตำบลของอำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ เนื่องจากแหล่งปลูกบริเวณดังกล่าวมีแคลเซียมและซิลิกอนสูง จึงได้ผลผลิตดี
นอกจากนี้ ยังมีข้าวเหนียวพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ ที่นิยมปลูกในบางท้องถิ่น เช่น:
ข้าวเล้าแตก: ข้าวเหนียวประจำภาคอีสาน มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดนครพนม ให้ผลผลิตสูง
ข้าวเหนียวก่ำกัญญา: ลำต้น ใบและเปลือกสีดำ เมล็ดสั้นมีสีดำ รสออกมันขม มีสรรพคุณทางยาเพราะมีธาตุเหล็กสูง
เหนียวก่ำหอมภูเขียว: ปลูกที่สกลนคร มีสารแอนโทไซยานิน ช่วยบำรุงสมอง บำรุงเลือด นิยมนำไปทำขนมและปลูกเป็นพืชร่วมระบบกับพืชอื่นเพราะสามารถต้านทานโรคไหม้ได้ดี





