ถ้าปักกิ่งแก้ปัญหาพายุทรายได้…ไทยก็แก้ได้: ต้นไม้ คือคำตอบของ PM2.5 โดย ดร.เล็ก

เดือนก่อน ผมมีโอกาสไปอบรมที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ระหว่างการเรียนรู้เรื่องระบบสิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ อาจารย์ท่านหนึ่งพูดประโยคหนึ่งที่ผมจำไม่ลืมว่า

“เมื่อ 20 ปีก่อน ปักกิ่งแทบไม่เคยเห็นท้องฟ้าสีฟ้า เพราะทุกปี จะมีพายุทะเลทรายพัดเข้ามาจากมองโกเลีย และทะเลทรายโกบี”

ผมหยุดคิด ไปพักใหญ่ เพราะนี่คือเมืองที่ทุกวันนี้มีถนนสะอาด ฟ้าใส และต้นไม้เรียงรายเต็มเมือง แต่ในอดีต มันเคยถูกปกคลุมด้วยฝุ่นทราย จากลมตะวันตกเฉียงเหนือ ที่พัดแรงจนบดบังพระอาทิตย์ ชาวเมืองป่วยด้วยปัญหาระบบทางเดินหายใจ เด็กเล็กหยุดเรียน ผู้สูงอายุต้องอยู่แต่ในบ้าน และเศรษฐกิจหยุดชะงักในบางช่วงของปี

จีนไม่เลือกจะ “ทน” กับปัญหานั้น แต่เลือกจะ

“จัดการมันอย่างเป็นระบบ”

ตั้งแต่ปี 1978 พวกเขาเริ่มโครงการ Three-North Shelterbelt Program หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กำแพงสีเขียว” เป็นการปลูกต้นไม้ยาวกว่า 4,000 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 13 มณฑล ทางตอนเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อสร้างแนวกันลม ดักฝุ่น และฟื้นฟูดินที่เสื่อมโทรม

จีนไม่ได้ปลูกต้นไม้โดยไม่มีเหตุผล พวกเขาศึกษาอย่างละเอียด ว่าพื้นที่แบบใดควรใช้ไม้ชนิดไหน เช่น ต้นที่รากลึกไว้ดักลม ต้นที่พุ่มแน่นไว้ดักฝุ่น และไม้พุ่มไว้ช่วยยึดดิน

ปัจจุบัน “กำแพงสีเขียว” นี้ช่วยลดจำนวนวันเกิดพายุทรายลงกว่า 80% และบางปี “ไม่มีพายุทรายเลยแม้แต่วันเดียว”

ผลลัพธ์ คือคุณภาพชีวิตของคนปักกิ่ง เปลี่ยนไป เด็กไปโรงเรียนได้ทุกวัน คนสูงอายุไม่ต้องพกหน้ากากตลอดเวลา และหลายคนบอกว่า “ได้ฟ้าสีฟ้ากลับคืนมาอีก

ผมนั่งฟังแล้วคิดถึงประเทศไทย เราเองก็เผชิญ “พายุ” ของตัวเองทุกปี…

ไม่ใช่พายุทราย แต่คือ PM2.5 ทุกหน้าหนาว เราเห็นค่าฝุ่นพุ่งสูงขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ และภาคกลาง ฝุ่นเหล่านี้ไม่ได้มาจากที่เดียว แต่มาจากหลายสาเหตุ ทั้งไฟป่า การเผาเศษวัสดุการเกษตร ดินเปลือยในพื้นที่โล่ง และฝุ่นที่ลมพัดมาจากที่ไกล ๆ

ถ้าปักกิ่งแก้ปัญหาที่ใหญ่และยากกว่าด้วย “ต้นไม้” เราก็แก้ PM2.5 ได้ด้วยแนวคิดเดียวกัน เพียงแต่ต้องทำให้ “เป็นระบบ” และ “ต่อเนื่อง” ดังนี้

1. สร้างแนวกันลมรอบพื้นที่เกษตรและชุมชน

ปลูกไม้ยืนต้นที่แข็งแรง รากลึก กันลม เช่น

🌳 ยางนา – โตเร็ว ทนแล้ง กันลมหลักในพื้นที่โล่ง

🌳 มะค่าโมง – ทรงพุ่มใหญ่ ปรับอากาศ และให้ร่มเงา

🌳 พะยอม – พุ่มแน่น ดักฝุ่นได้ดี

2. ใช้ไม้พุ่ม และพืชคลุมดินเพื่อลดฝุ่นฟุ้งกระจาย

🌿 กระถินณรงค์ – โตเร็ว คลุมดิน ตรึงไนโตรเจน

🌿 แคนา – ใบดก ดักฝุ่นรอบชุมชน

🌿 หญ้าแฝก – รากยึดดินแน่น ป้องกันการพังทลาย

3. ฟื้นฟูพื้นที่เสื่อมโทรมและพื้นที่โล่งเปลือย

– ลดการพัดพาฝุ่นจากดินโดยการปลูกไม้คลุมดินหรือพืชตระกูลถั่ว

– เพิ่มความชุ่มชื้นในดิน ลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นขนาดเล็ก

4. จัดการเศษวัสดุการเกษตรอย่างถูกวิธี

– ไม่เผาในที่โล่ง แต่เปลี่ยนเป็นปุ๋ยหมัก หรือใช้เทคโนโลยีชีวมวล

– สนับสนุนระบบเก็บรวบรวมเศษวัสดุเพื่อลดการเผาในพื้นที่กว้าง

5. สร้างความร่วมมือจากชุมชน

– ให้คนในพื้นที่ร่วมออกแบบแนวกันลม

– สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรปลูกไม้เศรษฐกิจที่ช่วยลดฝุ่นไปพร้อมกัน

ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนรู้ดีว่า PM2.5 ไม่ใช่เรื่องเล็ก มันกระทบทั้งสุขภาพ เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต แต่สิ่งที่เรายังขาดคือ “แผนระยะยาว” แบบที่ปักกิ่งเคยทำ

ถ้าจีนสร้างแนวป่าได้ยาวกว่า 4,000 กิโลเมตรเพื่อหยุดพายุทะเลทราย เราก็สามารถสร้าง “แนวกันฝุ่น” เพื่อหยุด PM2.5 ได้เช่นกัน แค่ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ ปลูกต้นไม้ให้ถูกที่ ถูกชนิด และถูกจุด

บางที…ในอีก 20 ปีข้างหน้า ลูกหลานเราอาจได้พูดคำเดียวกับคนปักกิ่งว่า

“ขอบคุณ…ที่ทำให้เราหายใจได้เต็มปอด”

558897450 1614118993241810 7099013606057070418 n