หลายคน—ไม่ว่าจะปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ —พยายามอย่างหนักเพื่อให้สินค้าของตัวเองได้ “เครื่องหมายรับรองมาตรฐาน Q”
ทั้งปรับวิธีการผลิต
ทั้งบันทึกข้อมูล
ทั้งผ่านการตรวจประเมินมาตรฐาน (GAP/GAP/GAqP)*
แต่หลังจาก “ได้ Q” แล้ว…
ชีวิตจะเปลี่ยนไปอย่างไร?
คำตอบคือ—เปลี่ยนไปมากกว่าที่คิด ครับ
หมายเหตุ:
GAP = การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับการผลิตพืช
GAP = การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีด้านปศุสัตว์
GAqP = การปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ดี (สัตว์น้ำ)
จาก “ของทั่วไป” สู่ “ของที่คนเลือกก่อน”
พืช: ผัก ผลไม้ ข้าว ที่มี Q = มั่นใจเรื่องน้ำ พื้นที่ปลูก วัตถุอันตรายทางการเกษตร การจัดการกระบวนการผลผลิตก่อนการเก็บเกี่ยวและหลังการเก็บเกี่ยว
บุคลากรที่ปฏิบัติงาน
บันทึกข้อมูล และการตามสอบเพื่อให้ได้ผลิตผลที่ปลอดภัย มีคุณภาพเหมาะสมในการบริโภค
ปศุสัตว์: เนื้อ นม ไข่ ที่มี Q = มั่นใจในการจัดการฟาร์ม สุขภาพสัตว์ การจัดการตัวสัตว์และผลิตผล สิ่งแวดล้อม และบันทึกข้อมูล ทำให้สัตว์มีสุขภาพแข็งแรง ได้ผลิตผลที่ปลอดภัยเหมาะสมกับการบริโภคหรือเลี้ยงต่อเป็นอาหาร
สัตว์น้ำ: กุ้ง ปลา หอย ที่มี Q = มั่นใจในสถานที่เลี้ยงการจัดการการเลี้ยงทั้งลูกพันธุ์ อาหารสัตว์น้ำ การจัดการสุขภาพสัตว์น้ำ โดยมีการใช้ยาสัตว์ สารเคมี ผลิตภัณฑ์จุลชีพ อย่างเหมาะสม และถูกต้องตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้สัตว์น้ำที่คุณภาพและปลอดภัยต่อการบริโภค
ผลคือ ผู้บริโภค “เห็นชื่อเราแล้วเชื่อมั่นทันที” และมัก “เลือกของเราก่อน” เวลาเปรียบเทียบซื้อ
จาก “ราคาทั่วไป” สู่ “ราคาที่มีมูลค่าเพิ่ม”
ห้าง/ซูเปอร์มาร์เก็ต ให้ความสำคัญกับสินค้าที่มี Q ก่อนเสมอ
โรงเรียน/โรงพยาบาล และหน่วยงานรัฐ มักกำหนดใช้ เฉพาะสินค้าที่ได้มาตรฐาน
ตลาดส่งออกจำนวนมาก “เริ่มคุย” เพราะมั่นใจในความปลอดภัยอาหารของแหล่งผลิต ก็ต่อเมื่อ เห็น Q และมีคำว่า “GAP” ต่อท้าย
ไม่ว่าจะเป็น ผักผลไม้-เห็ด-กาแฟ
ฟาร์มไก่เนื้อ–โคนม–สุกร-ไก่ไข่- หรือ
ฟาร์มเลี้ยงสัตว์น้ำเพื่อการบริโภค
มี Q = ขายง่ายขึ้น ราคาดีขึ้น และต่อรองบนฐานของ “คุณภาพที่พิสูจน์ได้”
จาก “ตลาดเล็ก” สู่ “ตลาดใหม่ที่กว้างกว่า”
ผู้ปลูกพืช: เข้าห้าง โครงการอาหารปลอดภัย ร้านสุขภาพ โรงงานแปรรูป
ผู้เลี้ยงสัตว์: เข้าระบบจัดซื้อของรัฐ โรงเรียน โรงพยาบาล ผู้แปรรูปที่ต้องการวัตถุดิบมาตรฐาน
ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ: เปิดทางสู่ผู้ส่งออก โรงงานแช่แข็ง ตลาดต่างประเทศที่ยึดเรื่องมาตรฐานเข้มงวด
Q คือ “ใบผ่านทาง” ที่ทำให้เราเข้าตลาดมั่นคงและยั่งยืนกว่าเดิม
จาก “ผู้ขายรายย่อย” สู่ “คู่ค้าที่น่าเชื่อถือ” Q บอกผู้ซื้อว่า “เราจริงจังกับคุณภาพและความปลอดภัย”
บริษัท/ผู้ส่งออก “กล้าทำสัญญารับซื้อระยะยาว” ร้านค้า/ห้าง “มั่นใจภาพลักษณ์” เพราะมีหลักฐานจากรัฐรองรับ เกษตรกร “ต่อรองได้ด้วยข้อมูล” ไม่ใช่แค่ราคาหน้าลาน
จาก “มาตรฐานพื้นฐาน” สู่ “การต่อยอดขั้นสูง”
Q เป็น ใบเบิกทาง ไปต่อได้อีกไกล
GAP Plus (เข้มขึ้น) สำหรับหลายสินค้า
Organic (อินทรีย์) เมื่อฐานความปลอดภัยพร้อม
มาตรฐานเฉพาะปลายทาง/ประเทศ สำหรับการส่งออก
ไม่มี Q → ทางเลือกแคบ
มี Q → ทางเลือกเปิดกว้าง
จาก “ความภูมิใจส่วนตัว” สู่ “ชื่อเสียงอาชีพ”
Q ไม่ใช่แค่สติ๊กเกอร์ แต่คือเครื่องหมายของความรับผิดชอบ
เราปลูก/เลี้ยงด้วยความใส่ใจ
เราส่งต่อความปลอดภัยถึงจานคนกิน
เราคือ “เกษตรกรคุณภาพ” ที่ใคร ๆ ให้ความเชื่อถือ
สรุป: ได้ Q แล้ว…คือการยกระดับทั้งสินค้าและชีวิต น่าเชื่อถือขึ้นทันทีในสายตาคนซื้อ ขายง่ายขึ้น ราคาดีขึ้น เข้าสู่ตลาดใหม่ได้ ทั้งห้าง–รัฐ–ส่งออก
เป็นคู่ค้าที่คนอยากทำธุรกิจด้วยระยะยาว เปิดทางไปสู่มาตรฐานระดับสูงใน
อนาคต “ตรา Q” ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของความพยายาม…แต่มันคือจุดเริ่มต้นของอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน—สำหรับผู้ปลูกพืช ผู้เลี้ยงสัตว์ และผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ทุกคน”





