เมื่อวานนี้ ผมนั่งฟังคุณ นฤมล ฉัตรสง่า ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของอาหารและการบริโภคอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
เธออธิบายเรื่องที่หลายคนสงสัย… ถ้าเป็นอาหารจากเทคโนโลยี GEd อย. ดูแลอย่างไร? ปลอดภัยไหม?
เธอพูดประโยคหนึ่งที่ผมว่า “ชัดที่สุด” เท่าที่เคยได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้
“อาหารทุกชนิดต้องปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ หรือปรับแต่งจีโนม โดย อย. ไม่ขัดข้องหากเป็น GEd ที่กรมวิชาการเกษตรรับรองแล้วว่า ไม่มีการปรับแต่งแบบข้ามขอบเขตของการผสมพันธุ์ตามธรรมชาติ และปลอดภัยไม่แตกต่างจากพืชที่ใช้เป็นอาหารทั่วไป ทั้งนี้ ส่วนของ อย. หากมีการตัดและปรับแต่งข้ามสายพันธุ์ ต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยอาหารก่อน ถ้าไม่ปลอดภัย…อย. ไม่อนุญาต”
ผมนั่งฟังแล้วสบายใจขึ้นมาก เพราะนี่คือคำตอบที่คนไทยอยากได้มายาวนาน คำตอบที่เรียบง่าย ไม่ต้องใช้ศัพท์วิทยาศาสตร์เยอะเลย
เธออธิบายต่อว่า… อย. ไม่ได้ดูแค่ยีน แต่ดูทั้ง คุณภาพมาตรฐานคุณค่าทางโภชนาการ ผลกระทบต่อร่างกาย การแพ้ ความเป็นพิษ รวมถึง การสื่อสารต่างๆให้ผู้บริโภครับรู้ผ่านฉลากด้วย
ถ้าพบข้อกังวลแม้เพียงเล็กน้อย ต้องส่งให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินเพิ่ม และที่สำคัญที่สุด…
“อาหารจาก GEd ต้องปลอดภัยพอ ๆ กับอาหารธรรมชาติ หรือมากกว่าเท่านั้น”
ผมฟังแล้วคิดถึงเกษตรกรหลายคนที่กลัว
ว่าอาหารจาก GEd จะปลอดภัยไหม?
จะเป็นอันตรายหรือเปล่า?
ลูกหลานจะกินได้ไหม?
คำตอบจากคุณนฤมล ทำให้ผม “คลายกังวล” เหมือนเปิดหน้าต่างให้ลมเย็น ๆ พัดเข้ามา เพราะสุดท้ายแล้ว…ไม่ว่าเทคโนโลยีจะล้ำแค่ไหน อาหารทุกชิ้นต้องผ่านด่านสุดท้ายชื่อว่า “อย.”
และด่านนี้…เข้มที่สุดในประเทศแล้วครับ
ผมเดินออกจากห้องประชุมวันนั้น รู้สึกว่าเสียงของผู้เชี่ยวชาญ อย. ช่วยให้คนทำงานภาคเกษตรอย่างผม เห็นภาพชัดขึ้นว่า
GEd อาจเป็นเทคโนโลยีใหม่ แต่ความปลอดภัยของผู้บริโภค…ไม่เคยใหม่ และไม่เคยถูกลดความสำคัญลงเลยแม้แต่นิดเดียว
สุดท้ายนี้ ผมอยากบอกเกษตรกรและคนไทยทุกคนว่าถ้าอาหารผ่าน อย.—ก็กินได้อย่างมั่นใจ เพราะเขาตรวจแทนเราทุกอย่างแล้วครับ





