พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 เป็นกฎหมายที่มีเป้าหมายชัดเจน คือ
ป้องกันไม่ให้ศัตรูพืช ก่อให้เกิดความเสียหายต่อพืช ทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ
ศัตรูพืชตามกฎหมาย รวมถึง แมลง โรคพืช สัตว์บางชนิด และเมล็ดวัชพืช
ศัตรูพืชเหล่านี้
ไม่ได้เคลื่อนย้ายเอง
แต่ติดมากับพืช
ดิน รองเท้า เครื่องจักร
สินค้า หรือสัมภาระ
ที่มีการเคลื่อนย้ายข้ามประเทศ
ถ้าไม่มีการตรวจและควบคุม จะเกิดอะไรขึ้น
หากไม่มีการตรวจและควบคุมตามกฎหมาย ศัตรูพืชจากต่างประเทศ อาจหลุดเข้ามาในประเทศได้
เมื่อศัตรูพืชเข้ามาแล้ว อาจแพร่กระจายไปยังแปลงปลูกต่าง ๆ โดยที่ไม่สามารถควบคุมได้ทัน
ผลที่เกิดขึ้นคือพืชเกิดโรคหรือการระบาด ผลผลิตเสียหาย เกษตรกรต้องเผชิญปัญหาที่ไม่เคยมีมาก่อน
ความเสียหายนี้ ไม่ได้หยุดอยู่ที่แปลงใดแปลงหนึ่ง แต่สามารถขยายวงกว้าง กระทบการผลิตพืชของประเทศโดยรวม
ในทางกลับกัน หากประเทศไม่จัดการศัตรูพืชของตนเอง ศัตรูพืชจากประเทศไทย ก็อาจติดออกไปกับสินค้า หรือ พืช และสร้างปัญหาให้ประเทศอื่น
ผลกระทบที่ตามมา คือ สินค้าเกษตรถูกปฏิเสธ การส่งออกได้รับผลกระทบ ความเชื่อมั่นด้านสุขอนามัยพืชลดลง
ด้วยเหตุนี้ พระราชบัญญัติกักพืช จึงไม่ได้มีไว้เพื่อควบคุมคนเดินทาง
แต่มีไว้เพื่อ ลดความเสี่ยง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับพืช ของแต่ละประเทศ
หลักคิดของกฎหมายนี้ คือ
ต่างประเทศต่างดูแลศัตรูพืชของตนเอง
และร่วมมือกันป้องกันปัญหาข้ามพรมแดน
ซึ่งสอดคล้องกับ
อนุสัญญาว่าด้วยการอารักขาพืชระหว่างประเทศ (IPPC)
สรุปให้เข้าใจง่าย
ถ้าไม่ควบคุม → ศัตรูพืชอาจหลุดเข้า
ศัตรูพืชหลุดเข้า → พืชในประเทศเสียหาย
ถ้าไม่จัดการของเรา → กระทบประเทศอื่น
กฎหมายกักพืช = การป้องกันก่อนเกิดปัญหา





